คู่มือการเทรดฟิวเจอร์ ปี 2024 – ประเทศไทย (แบบเข้าใจง่าย)
การเทรดแบบฟิวเจอร์จะช่วยให้ลูกค้ารายย่อยสามารถซื้อขายในตลาดที่เข้าถึงยาก ซึ่งรวมถึงโลหะมีค่า เช่น ทอง เงิน ก๊าซธรรมชาติ น้ำมัน และข้าวสาลี รวมถึงหุ้น ดัชนี และฟอเร็กซ์
หนึ่งในสิ่งที่น่าสนใจคือ คุณจะมีตัวเลือกการเปิดสถานะ Long หรือ Short สำหรับตลาดที่เลือก คุณสามารถใช้เลเวอเรจได้ถึง 1:30
แต่การเทรดนี้มีความซับซ้อนมากกว่าการซื้อหรือขายสินทรัพย์ ดังนั้นเราจึงจัดทำคู่มือเชิงลึกนี้เกี่ยวกับ การเทรดฟิวเจอร์ ในไทย ซึ่งจะอธิบายรายละเอียดการเทรด ความเสี่ยง และโอกาสทำกำไร เพื่อให้คุณเข้าใจและสามารถเริ่มต้นใช้งานบัญชีเทรดได้เลยวันนี้
- 1 – เลือก Libertex สำหรับการเทรดที่หลากหลาย
- 2 – เปิดบัญชีกับ Libertex
- 3 – ฝากเงินเข้าบัญชี
- 4 – เลือกตลาดฟิวเจอร์ที่มีอยู่มากมาย
- 5 – เปิดสถานะแล้วกำหนดระดับ Stop Loss และ Take Profit การลงทุนฟิวเจอร์ผ่าน CFD จะช่วยให้คุณสามารถเปิด Long (ซื้อ) หรือ Shot (ขาย) และใช้เลเวอเรจได้สูงถึง 1:30
70.8% ของบัญชีนักเทรดรายย่อยสูญเสียเงินเมื่อทำการเทรด CFDs กับทางแพลตฟอร์มนี้
การเทรด future คืออะไร
สัญญาฟิวเจอร์ได้รับความนิยมมากจากนักลงทุนที่มีประสบการณ์ที่ เนื่องจากคุณสามารถเทรดมูลค่าในอนาคตของสินทรัพย์โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของล่วงหน้า ดังนั้นเทรดฟิวเจอร์แปลว่า การคาดการณ์ว่ามูลค่าของสินทรัพย์จะเพิ่มขึ้นหรือลดลง
เช่น คุณอาจเทรดน้ำมันดิบในตลาดฟิวเจอร์ 3 เดือน หากราคาของสัญญาอยู่ที่ 50 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล คุณต้องคาดเดาว่าราคาน้ำมันจะมีมูลค่ามากกว่าหรือน้อยกว่าตัวเลขนี้ภายในระยะเวลาสามเดือน หากคาดการณ์ได้ถูกต้องคุณจะได้รับกำไร
ดังนั้นจึงไม่มีข้อกำหนดให้คุณต้องถือสัญญาฟิวเจอร์ไว้จนกว่าจะหมดอายุ คุณสามารถยกเลิกสัญญาได้ตลอดเวลา วิธีนี้จะช่วยให้คุณล็อกกำไรหรือลดการขาดทุนได้ ในการเทรดแบบ future สามารถเข้าถึงตลาดเพื่อซื้อขายสินทรัพย์ได้เกือบทุกประเภท
เทรดได้ทุกอย่าง ตั้งแต่หุ้น น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ สกุลเงิน ข้าวสาลี และทองคำ ซึ่งโบรกเกอร์ส่วนใหญ่จะให้คุณซื้อขายสัญญาด้วยเลเวอเรจได้ ซึ่งเลเวอเรจสำหรับสกุลเงินอยู่ที่ 1:30 เลเวอเรจสำหรับทองคำ และดัชนีหลักอยู่ที่ 1:20 ส่วนสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ เลเวอเรจจะอยู่ระหว่าง 1:2 ถึง 1:10
การเทรดฟิวเจอร์ ในไทยต้องทำอย่างไร
ก่อนเริ่ม คุณต้องเรียนรู้หลายอย่างเพราะว่าตลาดการเงินนี้ค่อนที่จะซับซ้อน คุณต้องเข้าใจตัวเลือกการเทรดและการจัดการความเสี่ยงที่ต้องใช้เพื่อหลีกเลี่ยงการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้น
สัญญาฟิวเจอร์ทั้งหมดมีเวลาหมดอายุ
การลงทุนในสินทรัพย์แบบดั้งเดิม เช่น หลักทรัพย์และหุ้น จะสามารถถือครองหุ้นไว้ได้นานเท่าที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็น 10 สัปดาห์ 10 เดือน หรือ 10 ปี สินทรัพย์อ้างอิงจะคงอยู่ในพอร์ตหุ้นของคุณโดยไม่มีกำหนด แต่การเทรดฟิวเจอร์ไม่ได้เป็นแบบนี้
สัญญาฟิวเจอร์มักจะมีวันหมดอายุ โดยส่วนใหญ่ระยะเวลาของสัญญาแต่ละฉบับอยู่ที่ 3 เดือน และจะหมดอายุในวันศุกร์ที่สามของเดือนนั้น เมื่อสัญญาสิ้นสุดลง สัญญาจะถูกชำระราคา หมายความว่าผู้ถือสัญญาฟิวเจอร์มีข้อกำหนดทางกฎหมายในการซื้อหรือขายสินทรัพย์อ้างอิง
ตัวอย่างเช่น
- สมมติว่าคุณถือสัญญาฟิวเจอร์ของหุ้น Ford Motors
- สัญญาฟิวเจอร์ประกอบด้วยหุ้นจำนวน 100 หุ้นที่ราคา 6 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น
- หากคุณยังคงถือครองสัญญาฟิวเจอร์เมื่อสัญญหมดอายุ คุณมีข้อผูกพันทางกฎหมายที่จะต้องซื้อหุ้น Ford Motors จำนวน 100 หุ้นในราคา 6 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น
- ส่งผลให้คุณต้องจ่ายเงิน 600 ดอลลาร์สหรัฐ
สิ่งที่ทำให้คุณทำกำไรได้หรือไม่จะขึ้นอยู่กับราคาตลาดของหุ้น Ford Motors ณ เวลาที่สัญญาสิ้นได้สุดลง กล่าวได้ว่าหากคุณเทรดด้วยสถานะ Long โดยที่ราคาหุ้น Ford Motors สูงกว่า 6 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น ณ วันที่หมดอายุ คุณจะได้กำไร
สัญญาฟิวเจอร์ทั้งหมดมีราคา
ในตัวอย่างข้างต้นเราได้อธิบายการซื้อสัญญาฟิวเจอร์สำหรับหุ้น Ford Motors ที่ราคา 6 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น หมายความว่าคุณสามารถซื้อหุ้นที่ราคาดังกล่าวเมื่อสัญญาหมดอายุลง
อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้จะไม่ได้สะท้อนถึงมูลค่าตลาดปัจจุบันของสินทรัพย์ ตอนที่ซื้อสัญญาฟิวเจอร์ 3 เดือน หุ้นของ Ford อาจมีราคาอยู่ที่ 5.50 ดอลลาร์สหรัฐ
แต่ราคาหุ้น 6 ดอลลาร์สหรัฐที่ระบุในสัญญาฟิวเจอร์เป็นสิ่งที่ตลาดรับรู้ถึงมูลค่าของหุ้น Ford Motors ที่จะมีราคาเท่านั้นในอีกสามเดือนข้างหน้า
ดังนั้นคุณจึงต้องระบุว่าหุ้นจะมีมูลค่าสูงกว่าหรือน้อยกว่าราคาสัญญาฟิวเจอร์ ณ วันที่หมดอายุ แนวคิดนี้ยังใช้กับสินทรัพย์ทุกประเภทสำหรับตลาดฟิวเจอร์
สัญญาฟิวเจอร์ขั้นต่ำ
โดยทั่วไปในกรณีของการเทรดหุ้น สัญญาฟิวเจอร์หนึ่งสัญญาจะประกอบด้วยหุ้น 100 ตัว ส่วนสินทรัพย์ประเภทอื่น จำนวนอาจสูงกว่าหรือต่ำกว่านี้
ตัวอย่างเช่น
- ในตลาดน้ำมันดิบ WTI สัญญาฟิวเจอร์ 1 สัญญาจะเท่ากับน้ำมัน 1,000 บาร์เรล
- หากราคาอยู่ที่ 40 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลจะมีค่าใช้จ่าย 40,000 ดอลลาร์สหรัฐ
ปกติการเทรดในตลาดฟิวเจอร์ นักเทรดส่วนใหญ่จะใช้ประโยชน์จากเลเวอเรจ ทำให้นักเทรดต้องจ่ายเงินเพียงเล็กน้อยจากสัญญาฟิวเจอร์ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม สำหรับระดับเลเวอเรจที่จำกัดสำหรับนักเทรดรายย่อยจะสูงสุดที่ 1:30
ดังนั้นหากคุณไม่อยากเสี่ยงเงินจำนวนมากเพื่อเข้าถึงตลาดนี้ คุณสามารถเลือกเทรด CFD ของฟิวเจอร์ได้ เราจะมาอธิบายเรื่องนี้เพิ่มเติมในภายหลัง
Long หรือ Short
เมื่อประเมินปัจจัยพื้นฐานของตลาดฟิวเจอร์ที่ต้องการเทรดแล้ว คุณต้องตัดสินใจว่าจะเปิดสถานะ Long หรือ Short หมายความว่าคุณต้องคาดการณ์ว่าราคาสินทรัพย์จะเพิ่มขึ้นหรือลดลงในวันที่สัญญาฟิวเจอร์หมดอายุหรือก่อนวันที่สัญญาฟิวเจอร์จะหมดอายุ
ตัวอย่างเช่น
- สมมติว่าสัญญาฟิวเจอร์ 3 เดือนสำหรับทองคำมีราคา 1,800 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
- หากคุณคิดว่าราคาน้ำมันในอีก 3 เดือนข้างหน้าจะสูงกว่านี้ คุณจะเปิดสถานะ “Long”
- หากคิดว่าราคาจะลดลง คุณจะเปิดสถานะ “Short”
ทำให้การเทรด future มีข้อได้เปรียบเมื่อเทียบกับการเทรดสินทรัพย์แบบเดิม เพราะสามารถทำกำไรได้ทั้งจากตลาดที่เพิ่มขึ้นและลดลง พูดง่ายๆ ก็คือ หากคุณคิดว่าราคาสินทรัพย์มีแนวโน้มลดลง ฟิวเจอร์จะช่วยให้คุณใช้ประโยชน์จากการคาดการณ์นี้
ทำเงินจากการเทรดสัญญาฟิวเจอร์ ได้อย่างไร
ตัวอย่าง 1: เปิดสถานะ Long หุ้นดิสนีย์
ดังที่ได้อธิบายไว้ก่อนหน้านี้ การเปิดสถานะ Long หมายถึงคุณคาดการณ์ว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะเพิ่มขึ้นตอนที่สัญญาหมดอายุหรือก่อนที่สัญญาจะหมดอายุ
- ราคาปัจจุบันของหุ้น Disney อยู่ที่ 130 ดอลลาร์สหรัฐ
- คุณซื้อสัญญาฟิวเจอร์ 1 ฉบับสำหรับหุ้น Disney ซึ่งประกอบด้วยหุ้นจำนวน 100 หุ้น
- ระยะเวลาหมดอายุของสัญญาคือ 3 เดือน และราคาตามสัญญาอยู่ที่ 140 ดอลลาร์สหรัฐ
- ไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่สัญญาจะหมดอายุ ราคาหุ้น Disney ใน NYSE เพิ่มเป็น 150 ดอลลาร์สหรัฐ
- แต่ราคาตามสัญญาของคุณคือ 140 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น ราคาจึงสูงกว่า 10 ดอลลาร์สหรัฐ
- ดังนั้นคุณเลยตัดสินใจล็อกกำไรด้วยการขายสัญญาฟิวเจอร์กับโบรกเกอร์
- เนื่องจากสัญญาฟิวเจอร์ของคุณประกอบด้วยหุ้นดิสนีย์จำนวน 100 หุ้น คุณจึงทำกำไรได้ทั้งหมด 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ (10 ดอลลาร์สหรัฐ x 100 หุ้น)
ดังที่แสดงในตัวอย่างข้างต้น นักเทรดส่วนใหญ่จะทิ้งสัญญาฟิวเจอร์ก่อนวันหมดอายุ นอกจากจะช่วยล็อกกำไร คุณยังสามารถจำกัดการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นได้ด้วย
ตัวอย่าง 2: การเทรดฟิวเจอร์น้ำมันดิบด้วยสถานะ Short
มาดูตัวอย่างสถานะ Short ของฟิวเจอร์ หมายความว่าคุณคาดการณ์ว่าราคาสินทรัพย์จะลดลง
- ราคาของน้ำมันปัจจุบันอยู่ที่ 30 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
- คุณซื้อสัญญาฟิวเจอร์น้ำมัน 1 ฉบับที่ประกอบด้วย 1,000 บาร์เรล
- วันหมดอายุของสัญญาคือ 3 เดือน และราคาตามสัญญาคือ 27 ดอลลาร์สหรัฐ
ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา โอเปกประกาศเพิ่มระดับการผลิต ส่งผลให้เกิดอุปทานน้ำมันมากเกินไป
- ดังนั้นปริมาณที่สูงขึ้นจึงกระทบต่อราคาน้ำมัน
- ก่อนสัญญาจะหมดอายุไม่กี่วัน ราคาน้ำมันลดลงเหลือ 20 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
- เมื่อเทียบกับราคาตามสัญญาที่ 27 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนต่างคือ 7 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
- ดังนั้นคุณจะได้รับกำไรจากการขายฟิวเจอร์
- สัญญาฟิวเจอร์ของคุณประกอบด้วยน้ำมัน 1,000 บาร์เรล คุณจึงทำกำไรได้ทั้งหมด 7,000 เหรียญสหรัฐ (7 เหรียญสหรัฐ x 1,000)
ตัวอย่างข้างต้นแสดงให้เห็นว่ เปิดโอกาสให้คุณทำกำไรจากตลาดที่ร่วงลง
การเทรดฟิวเจอร์ : ตามประเภทสินทรัพย์
ฟิวเจอร์หุ้น
ฟิวเจอร์หุ้นช่วยให้นักลงทุนที่สนใจลงทุนแบบฟิวเจอร์ มีช่องทางซื้อขายตราสารทุนได้มากขึ้น คุณสามารถเปิดสถานะ Long กับ Short ในตลาดที่เลือก และใช้เลเวอเรจสำหรับการเทรด
ส่วนใหญ่แล้วสถาบันการเงินจะเสนอตลาดฟิวเจอร์สำหรับหุ้นบริษัทใหญ่เท่านั้น TFEX ของไทยจะเป็นหุ้นบริษัทใหญ่ 50 แห่ง เช่น ADVANC, DBMS และ BH
หากเป็นหุ้นสหรัฐก็จะเป็นพวกหุ้นเทคโนโลยีจะรวมถึง Facebook, IBM, Amazon และ Apple
ฟิวเจอร์สินค้าโภคภัณฑ์
สินค้าโภคภัณฑ์เป็นตลาดที่ได้รับความนิยมสำหรับการเทรดฟิวเจอร์ เนื่องจากสินทรัพย์ต่างๆ เช่น ทองคำและน้ำมัน ที่ยากต่อการซื้อขายแบบดั้งเดิม
เนื่องจากต้องรับภาระในการซื้อและจัดเก็บทรัพย์สินทางกายภาพที่ไม่สามารถทำได้ แต่การเทรดตลาดฟิวเจอร์ คุณเพียงแค่ต้องซื้อหรือขายสัญญาฟิวเจอร์โดยไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์
- ทองคำ
- เงิน
- แพลตทินัม
- น้ำมันดิบ Brent
- น้ำมันดิบ WTI
- ก๊าซธรรมชาติ
- ข้าวสาลี
- น้ำตาล
- ถั่วเหลือง
ตราบใดที่ผู้ถือสัญญายกเลิกสินค้าโภคภัณฑ์ก่อนวันหมดอายุก็จะไม่มีภาระผูกพันที่ต้องดำเนินการส่งมอบสินค้าที่เกี่ยวข้อง
ฟิวเจอร์ Forex
เหมาะกับนักเทรดสกุลเงินที่ต้องการเก็งกำไรระยะยาว นั่นเพราะตลาดเทรด Forex จะขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ใช้เลเวอเรจ โดยทั่วไป Forex จะเทรดเป็นขนาดล็อต 100,000 ปอนด์/ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งนักลงทุนจะใช้ประโยชน์จากเลเวอเรจได้อย่างเต็มที่
หากไม่มีเลเวอเรจ นักลงทุนที่สนใจ การลงทุนฟิวเจอร์ จะต้องใช้เงินจำนวนมากเพื่อซื้อขายคู่สกุลเงินที่ต้องการ แม้ว่าการเทรด Forex ด้วยเลเวอเรจจะมีประโยชน์ในแง่ของการจัดการเงินทุน แต่ข้อบกพร่องหลักๆ คือคุณต้องจ่ายค่าธรรมเนียมข้ามคืนในแต่ละวันที่เปิดสถานะไว้
ซึ่งเปรียบเสมือนค่าธรรมเนียมดอกเบี้ยที่จ่ายให้กับโบรกเกอร์สำหรับเงินที่ยืมมา ดังนั้นการเทรด Forex จึงเหมาะกับการเดย์เทรด และไม่เหมาะกับกลยุทธ์ระยะยาว นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ฟิวเจอร์ Forex เข้ามามีบทบาท เนื่องจากปกติสัญญาแต่ละฉบับจะมีวันหมดอายุ 3 เดือน จึงช่วยให้คุณเปิดสถานะไว้ได้นานขึ้นโดยไม่มีค่าธรรมเนียมการจัดหาเงินข้ามคืน
ฟิวเจอร์คริปโต
CME Group ซึ่งเป็นตลาดอนุพันธ์ระดับโลกที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง ช่วยให้นักลงทุนสถาบันมีส่วนร่วมกับ เทรดฟิวเจอร์ คริปโต รวมถึงเทรดฟิวเจอร์ Bitcoin แต่ในแง่ของมูลค่าสัญญาจะมีข้อกำหนดขั้นต่ำ
โดยจะกำหนดที่ 5 Bitcoin ต่อสัญญา ดังนั้นราคาปัจจุบันที่สูงกว่า 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ/BTC คุณจะต้องจ่ายเงินอย่างน้อย 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ แน่นอนว่ามีเลเวอเรจให้ใช้ แต่ CME Group เป็นตลาดซื้อขายสำหรับนักลงทุนรายใหญ่ ดังนั้นทางออกที่ดีที่สุดคือเทรดคริปโตสำหรับฟิวเจอร์ในรูปแบบของ CFD
ตราสาร CFD จะติดตามมูลค่าของ Bitcoin หมายความว่าคุณสามารถเข้าถึงตลาดได้โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของสัญญาอ้างอิง ในทางกลับกัน สิ่งนี้หมายความว่าคุณสามารถหลีกเลี่ยงการใช้เงินเดิมพันจำนวนมากได้
ประโยชน์ของการเทรดฟิวเจอร์
เหมาะสำหรับการเทรดระยะยาว
เป็นอีกทางเลือกนอกเหนือจากการเทรด CFD ที่ใช้เลเวอเรจ เนื่องจากสามารถเปิดสถานะไว้ได้โดยไม่ต้องกังวลกับค่าธรรมเนียมข้ามคืน ปกติสัญญาฟิวเจอร์จะมีระยะเวลาไม่เกิน 3 เดือน อย่างไรก็ตาม การเทรด future ด้วยเลเวอเรจต้องคำนึงถึงค่าธรรมเนียมด้วยเนื่องจากเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
กำไรจากตลาดที่เพิ่มขึ้นและลดลง
หากคุณซื้อหุ้น แบบดั้งเดิม วิธีเดียวที่สามารถทำเงิน (ไม่รวมเงินปันผล) ได้คือรอให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น
หากราคาหุ้นลดลงจะทำให้คุณตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายได้ แต่การเทรดแบบฟิวเจอร์ ช่วยให้คุณทำกำไรได้จากตลาดทั้งขาขึ้นและขาลง คุณจะมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการใช้ประโยชน์จากการทำวิจัยตลาด
การใช้เลเวอเรจ
โบรกเกอร์ในไทยส่วนใหญ่อนุญาตให้คุณใช้เลเวอเรจ ซึ่งเป็นการเทรดด้วยเงินที่มากเงินที่คุณมีในบัญชี และเลเวอเรจจะคูณปริมาณกำไร (รวมทั้งการขาดทุน) ที่เป็นไปได้
ในแง่ขีดจำกัด แพลตฟอร์มของไทยต้องปฏิบัติตามข้อกำหนด เช่นเดียวกับในอังกฤษที่ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของ ESMA หมายความว่าจำนวนเลเวอเรจที่สามารถใช้กับฟิวเจอร์ CFD จะขึ้นอยู่กับประเภทสินทรัพย์ที่เชื่อมโยงกับฟิวเจอร์
- 1:30: คู่ฟอเร็กซ์หลัก
- 1:20: คู่ฟอเร็กซ์รอง ทอง และดัชนีหลัก
- 1:10: สินค้าโภคภัณฑ์ที่ไม่ใช่ทองคำ คู่ฟอเร็กซ์รอง และคู่ฟอเร็กซ์เกิดใหม่
- 1:5: CFD หุ้น
- 1:2 สกุลเงินดิจิทัล
สมมติว่าบัญชีที่เปิดกับโบรกเกอร์มีเงิน 500 ปอนด์ และคุณเทรดด้วยเลเวอเรจ 1:10 หมายความว่าคุณสามารถเทรดด้วยเงิน 5,000 ปอนด์ ทั้งนี้ปริมาณกำไรและขาดทุนของคุณก็จะเพิ่มขึ้น 10 เท่าด้วยเช่นกัน
เทรดในตลาดที่เข้าถึงได้ยาก
แต่เดิมการเทรดมูลค่าในอนาคตของอนุพันธ์ทางการเงินของสินทรัพย์ต่าง เช่น น้ำมัน ข้าวสาลี และทองคำ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับลูกค้ารายย่อย แต่ทำให้คุณสามารถเทรดสัญญาฟิวเจอร์ได้ด้วยการคลิกปุ่ม ดังนั้นคุณจึงสามารถเทรดได้ทุกอย่าง ตั้งแต่ถั่วเหลือง น้ำตาล แพลทินัม และก๊าซธรรมชาติ โดยไม่จำเป็นต้องครอบครองหรือจัดเก็บทรัพย์สินอ้างอิง!
ความเสี่ยงของการเทรดฟิวเจอร์
มีความเสี่ยงหลายอย่างที่ต้องคำนึงถึง เช่นเดียวกับความเสี่ยงที่มีในตราสารทางการเงินทั้งหมด ดังนี้
- คุณอาจสูญเสียเงิน: การเทรด future อาจทำให้คุณสูญเสียเงิน เหมือนการลงทุนประเภทอื่นๆ คุณต้องคาดการณ์ให้ถูกต้องว่าแนวโน้มทิศทางตลาดจะเคลื่อนไหวไปทางใดเพื่อทำเงิน หากคาดการณ์ไม่ถูกต้อง คุณจะขาดทุน
- ความเสี่ยงจากการใช้เลเวอเรจ: เลเวอเรจเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มศักยภาพให้คุณสามารถเทรดด้วยเงินที่มากกว่าในบัญชีของคุณ แต่เลเวอเรจนั้นมาพร้อมความเสี่ยง พูดง่ายๆ ได้ว่า หากสถานะฟิวเจอร์ของคุณมีมูลค่าลดลงมากกว่ายอดมาร์จิ้น คุณจะถูกบังคับขาย
- ความซับซ้อน: สัญญาฟิวเจอร์อาจมีความซับซ้อนในแง่ของการเทรด คุณต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับระยะเวลาของสัญญา ราคาใช้สิทธิ์ ขนาดล็อตขั้นต่ำ และอื่นๆ
- การชำระราคา: เมื่อคุณซื้อสัญญาฟิวเจอร์ คุณมีข้อผูกพันทางกฎหมายที่จะต้องซื้อหรือขายสินทรัพย์ ณ วันที่ตกลงกันในอนาคต แม้ว่านักเทรดส่วนใหญ่จะยกเลิกสัญญาก่อนเวลาหมดอายุ แต่ก็ไม่ได้รับประกันว่าคุณจะสามารถทำแบบนี้ได้
เมื่อคำนึงถึงความเสี่ยงข้างต้น คุณจึงต้องเข้าใจหลักการเทรดก่อนที่จะเข้าสู่ตลาดการเงินนี้
กลยุทธ์การเทรดฟิวเจอร์
สัญญาเทรด future ช่วยให้คุณทำการซื้อขายที่มีความซับซ้อนได้ ดังนั้นจึงมีกลยุทธ์มากมายที่คุณต้องพิจารณา
รวมถึงสิ่งต่อไปนี้
ตลาดปรับฐาน (Market Correction)
เมื่อสินทรัพย์มีแนวโน้มยืดเยื้อออกไปก็จะเป็นช่วงการปรับฐานของตลาด ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อนักลงทุนออกจากสถานะเพื่อล็อกกำไร เช่น สมมติว่าหุ้น Apple เพิ่มขึ้น 7% ในช่วง 7 วัน
นักลงทุนบางส่วนต้องการถอนกำไรออกไปจึงอาจส่งผลให้หุ้น Apple ย่อลง 2% อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ไม่ได้หมายความว่าแนวโน้มขาขึ้นจบลงแล้ว
แต่เป็นแค่เพียงตลาดปรับฐานระยะสั้น ในกรณีนี้นักลงทุนที่เชี่ยวชาญอาจซื้อสัญญาฟิวเจอร์ของหุ้น Apple ด้วยสถานะ Long ทำให้สามารถเข้าสู่ตลาดด้วยราคาที่ถูกลง 2% หากแนวโน้มกลับมาเป็นขาขึ้นต่อ นักลงทุนก็ขายสัญญาเพื่อทำกำไรได้
เฮดจิ้ง (Hedging)
เฮดจิ้งคือกระบวนการลดความเสี่ยงของสถานะที่เปิดอยู่ เช่น สมมติว่าคุณลงทุน 20,000 ปอนด์ใน ETF ที่ติดตาม FTSE 100 ความไม่แน่นอนของ Brexit ทำให้คุณต้องการปกป้องการลงทุน แต่คุณก็ไม่อยากยกเลิกการลงทุน ETF ที่ได้ทำไว้
ทางออกที่เหมาะสมคือการขายชอร์ตฟิวเจอร์ FTSE 100 ซึ่งคุณจะต้องซื้อสัญญา 3 เดือนเพื่อตัดสินใจว่าควรเปิดสถานะ ETF ไว้หรือขายออกไป ในทางทฤษฎีคุณจะคุ้มทุนไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับมูลค่าของ FTSE 100 ขณะที่สัญญาฟิวเจอร์ยังคงเปิดอยู่เนื่องจากความเป็นไปได้ของทั้งสองได้รับการคุ้มครอง
เทรดตามปัจจัยพื้นฐาน
การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเป็นกระบวนการตัดสินใจเทรดที่เกี่ยวข้องกับข่าวสาร เช่น สมมติว่า Amazon ประกาศรายงานผลประกอบการว่ายอดขายทะลุเป้าเหนือความคาดหวังของตลาดในแง่ด้านรายได้และผลกำไรจากการดำเนินงาน ส่งผลให้ราคาหุ้น Amazon มีแนวโน้มแกว่งตัวขึ้นในระยะสั้น
การซื้อสัญญาฟิวเจอร์ด้วยสถานะ Long โดยอ้างอิงตามประกาศ ช่วยให้คุณซื้อรอราคาหุ้นเด้งกลับที่คาดกว่าจะเกิดขึ้น การติดตามข่าวสารทางการเงินล่าสุดจะทำให้คุณคาดการณ์ได้ว่าตลาดฟิวเจอร์จะเคลื่อนไหวไปในทิศทางใด
Algorithmic Futures Trading – อัลกอริทึมการเทรดฟิวเจอร์ คืออะไร
การเทรดฟิวเจอร์ อาจเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับคุณหากคุณคือนักลงทุนมือใหม่ ดังนั้นคุณจึงควรพิจารณาเกี่ยวกับการใช้ Algorithmic Futures Trading ซึ่งเป็นการพึ่งพาอัลกอริทึมการเทรดฟิวเจอร์ ที่สร้างขึ้นในนามคุณ
ซอฟต์แวร์นี้จะสแกนตลาดการเงินตลอดเวลา โดยมองหาแนวโน้มที่อาจส่งผลต่อราคาสินทรัพย์ หากมีโอกาสทำกำไร อัลกอริทึมจะเปิดสถานะ Long หรือ Short
สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้คือซอฟต์แวร์นี้ไม่สามารถประเมินข่าวสารการวิเคราะห์ทางพื้นฐาน แต่จะเน้นการวิเคราะห์ทางเทคนิคการเทรดฟิวเจอร์ทั้งหมด หากคุณสนใจกลยุทธ์อัลกอริทึมเทรด ฟิวเจอร์ คุณต้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับกลยุทธ์นี้จากโบรกเกอร์ที่คุณเลือก
รวมถึงผลลัพธ์การเทรดในอดีต และเครื่องมือการจัดการความเสี่ยงที่ซอฟต์แวร์ใช้ เมื่อซื้อซอฟต์แวร์และทำการดาวน์โหลดเรียบร้อยแล้ว คุณต้องติดตั้งลงในแพลตฟอร์มซื้อขายของบุคคลที่สาม เช่น MT4
แพลตฟอร์มการเทรดฟิวเจอร์ ที่ดีที่สุดในไทย
คุณควรเลือกโบรกเกอร์ออนไลน์ที่ตรงกับความต้องการ เมื่อเปรียบเทียบกับหุ้น พันธบัตร และสินทรัพย์แบบดั้งเดิมอื่นๆ มีแพลตฟอร์มน้อยมากที่อนุญาตให้ลูกค้ารายย่อยสามารถทำการเทรด future
แต่ปัจจุบันมีโบรกเกอร์หลายเจ้าที่ให้คุณเทรดฟิวเจอร์ผ่าน CFD เราได้คัดเลือกโบรกเกอร์ชั้นนำในประเทศไทยสำหรับปี 2024 ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับการควบคุมจากหน่วยงานกำกับดูแล
1. Libertex
Libertex ได้รับการควบคุมโดย CySEC ทำให้นักเทรดมั่นใจถึงความปลอดภัยของเงินในบัญชี และยังมอบข้อเสนอพิเศษด้วยการไม่เรียกเก็บสเปรด!
สเปรด (Spread) คือความแตกต่างระหว่างราคาซื้อและราคาขาย ซึ่งเป็นสิ่งที่โบรกเกอร์ส่วนใหญ่ใช้ทำเงิน การเทรดที่ Libertex เพียงแค่ต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่นเล็กน้อยสำหรับการซื้อและขาย อีกทั้งยังมีส่วนลดค่าคอมมิชชั่น 50% สำหรับบัญชีบางประเภท
นอกจากนี้คุณสามารถเทรด CFD และตลาดอื่นๆ ได้มากมาย รวมถึงสกุลเงิน หุ้น และสกุลเงินดิจิทัลต่างๆ แพลตฟอร์มซื้อขายของโบรกเกอร์นี้ทำงานบนเว็บ และใช้งานง่ายมาก
ข้อดี:
- ได้รับการควบคุมโดย CySEC
- รับส่วนลดค่าคอมมิชชั่นการเทรด 50%
- เทรดได้โดยไม่มีสเปรด!
- แพลตฟอร์มเว็บเทรดที่ใช้งานง่าย
- ซื้อขายสินทรัพย์ได้หลายประเภท
- มีแหล่งความรู้ เนื้อหาเพื่อการศึกษา
- เทรด CFD ด้วยสเปรด 0 และค่าคอมมิชชั่นต่ำ
ข้อด้อย:
- เทรดได้แค่ CFD
70.8% ของบัญชีนักเทรดรายย่อยสูญเสียเงินเมื่อทำการเทรด CFDs กับทางแพลตฟอร์มนี้
2. AvaTrade
AvaTrade เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ได้รับการควบคุมภายใต้เขตอำนาจศาลหลายแห่ง ให้บริการเทรดตราสาร CFD ที่มีตลาดนับพันให้ซื้อขาย เทรดได้ง่ายๆ แห่งเพียงแค่คลิกปุ่ม รวมถึงหุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ Forex และสกุลเงินดิจิทัล
ในแง่ของการเทรดฟิวเจอร์ โบรกเกอร์ AvaTrade นำเสนอการเทรดสินทรัพย์หลายประเภท รวมทั้งดัชนีต่างๆ เช่น FTSE 100 และ Dow Jones และโลหะมีค่า เช่น ทองคำ รวมถึงพันธบัตรรัฐบาล และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร เช่น ข้าวโพด น้ำตาล และข้าวสาลี
AvaTrade เป็นโบรกเกอร์ยอดนิยมสำหรับนักเทรดชาวไทยที่ต้องการซื้อขายฟิวเจอร์โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม เนื่องจากแพลตฟอร์มนี้ไม่มีค่าคอมมิชชั่น แต่จะเก็บค่าธรรมเนียมในรูปแบบสเปรดแทน อีกข้อดีของ AvaTrade คือการเป็นแพลตฟอร์ม การเทรดฟิวเจอร์ ที่รองรับ MT4 และเป็นหนึ่งใน โบรกเกอร์ MT5 ทีที่ดีที่สุด นอกจากนี้ยังมีบริการโซเชียลเทรดดิ้งผ่านแพลตฟอร์ม Zulutrade!
ช่วยให้คุณสามารถใช้หุ่นยนต์ซื้อขายแบบอัลกอริทึม หากคุณชอบฟังก์ชันของ AvaTrade คุณสามารถเทรดได้ผ่านบัญชีออนไลน์หรือมือถือ กำหนดเงินฝากขั้นต่ำที่ 100 ปอนด์ สามารถฝากเงินได้ทันทีด้วยบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิตไทย รวมถึงการโอนเงินผ่านธนาคาร แต่อาจใช้เวลาดำเนินการหลายวัน
ข้อดี:
- ค่าคอมมิชชั่น 0% ค่าธรรมเนียมทั้งหมดอยู่ในสเปรด
- เทรดได้ทุกอย่างตั้งแต่หุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ Forex และสกุลเงินดิจิทัล
- ได้รับการควบคุมภายใต้เขตอำนาจศาลหลายแห่ง
- ไม่มีค่าธรรมเนียมฝากเงินหรือถอนเงิน
- ยอดเงินขั้นต่ำในบัญชีเพียง 100 ปอนด์
ข้อด้อย:
- ตัวเลือกบัญชี/แพลตฟอร์มที่มีให้ใช้อาจมากเกินไปสำหรับมือใหม่
79% ของนักลงทุนรายย่อยสูญเสียเงินเมื่อเทรด CFD กับผู้ให้บริการนี้
3. Quantum AI - โบรกเกอร์ซื้อขายล่วงหน้าที่ดีที่สุด
Quantum AI เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มการซื้อขาย CFD ที่ดีที่สุดในสหราชอาณาจักร แพลตฟอร์มนี้ช่วยให้คุณสามารถซื้อขายสินทรัพย์ CFD ต่างๆ ได้หลากหลาย โดยซอฟต์แวร์ของแพลตฟอร์มนี้จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับสิ่งที่ควรซื้อ มันสแกนและวิเคราะห์ราคาตลาดเพื่อให้คุณมีรายการตัวเลือกฟิวเจอร์ต่างๆ คุณสามารถเลือกได้ว่าต้องการให้ Quantum AI เป็นแบบกึ่งอัตโนมัติ ตำแหน่งที่คุณเลือกและดำเนินการซื้อขาย หรือหากคุณต้องการให้เป็นแบบอัตโนมัติทั้งหมด หากคุณเลือกตัวเลือกสุดท้าย แพลตฟอร์มจะทำการซื้อขายให้คุณ
เมื่อคุณซื้อขายฟิวเจอร์ คุณจะไม่ต้องจ่ายคอมมิชชั่นใดๆ เมื่อใช้ Quantum AI ซึ่งทำให้เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ถูกที่สุดในตลาด
Quantum AI กล่าวว่าพวกเขาจะจัดการเพื่อช่วยให้คุณทำกำไรได้ถึง 60% ต่อวัน เราไม่พบหมายเลขก่อนหน้าเพื่อสำรองข้อมูลนี้ แต่แพลตฟอร์มดังกล่าวได้รับคำวิจารณ์และการให้คะแนนที่ดีมากมายจากทั้งมืออาชีพและนักลงทุนเอกชน
การเปิดบัญชี Quantum AI นั้นง่ายมาก และเงินฝากเริ่มต้นของคุณต้องมีขั้นต่ำ 220 ยูโร การฝากและถอนเงินทั้งหมดทำได้ด้วยบัตรเครดิต/เดบิต หรือการโอนเงินผ่านธนาคาร และไม่มีค่าธรรมเนียมใดๆ
ข้อดี:
- 100% คอมมิชชั่นฟรี
- ไม่มีค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม
- ใช้งานง่าย
- แอปพร้อมใช้งานบนอุปกรณ์ Android และ IOS
- ตัวเลือกฟิวเจอร์ที่หลากหลาย
- กำไรสูงถึง 60% ต่อวัน
- บทวิจารณ์ที่ดี
ข้อด้อย:
- เงินฝากขั้นต่ำสูง
71% ของบัญชีนักลงทุนรายย่อยสูญเสียเงินเมื่อทำการซื้อขาย CFD กับผู้ให้บริการรายนี้
วิธีเริ่มต้นเทรดที่ Libertex - คู่มือสอนเทรด
พร้อมเข้าสู่การเทรด CFD ฟิวเจอร์ในไทยหรือยัง เราจะแนะนำวิธีเริ่มต้นเทรดกับ Libertex ทีละขั้นตอน
ขั้นที่ 1: เปิดบัญชีเทรด
เริ่มต้นที่ Libertex ด้วยการเปิดบัญชีเทรดใหม่ บนเว็บไซต์ของโบรกเกอร์ให้คลิก “เข้าร่วมตอนนี้” แล้วใส่ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านใหม่ พร้อมชื่อและอีเมลของคุณ
คุณยืนยันตัวตนกับ Libertex เพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับของหน่วยงานกำกับดูแล คุณสามารถทำการยืนยันทางออนไลน์โดยการอัปโหลดสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือหนังสือเดินทางหรือใบขับขี่ พร้อมด้วยสำเนาสเตทเมนท์ล่าสุดหรือใบเรียกเก็บเงินค่าสาธารณูปโภค
ขั้นที่ 2: ฝากเงินเข้าบัญชี
สามารถฝากเงินในบัญชีเทรดที่ Libertex ด้วยบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิต กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ เช่น Neteller หรือ Skrill หรือโอนเงินผ่านธนาคาร โปรดทราบว่าการเปิดบัญชีใหม่ที่ Libertex จะกำหนดเงินฝากขั้นต่ำ 100 ดอลลาร์สหรัฐ
ขั้นที่ 3: ทำการเทรด CFD ฟิวเจอร์ครั้งแรก
ไปที่หน้าหลักของ Libertex เพื่อเรียกดูตลาดต่างๆ
สรุป
เบื้องต้นสัญญาฟิวเจอร์อาจดูเหมือนเข้าใจยาก เนื่องจากการเทรดประเภทนี้มีความซับซ้อนมากกว่าแค่การซื้อและขายสินทรัพย์แบบทั่วไป
แต่การเข้าใจหลักการทำงานจะช่วยให้คุณมีทางเลือกในการเทรดสินทรัพย์ที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ซึ่งรวมถึงการเลือกจากสถานะ Long และ Short และการเทรดในตลาดที่เลือกด้วยการใช้เลเวอเรจ นอกจากนี้คุณสามารถออกจากสถานะได้ตลอดเวลาก่อนที่สัญญาฟิวเจอร์สจะหมดอายุ
หากคุณต้องการเทรด ฟิ ว เจอร์ในไทย เริ่มเทรดกับ Libertex วันนี้เพื่อเข้าถึงตลาดที่มีให้เลือกมากมายและไม่มีค่าธรรมเนียมใดๆ ฟังดูน่าสนใจใช่มั้ย คลิกลิงค์ด้านล่างเพื่อลงทะเบียนบัญชี!
70.8% ของบัญชีนักเทรดรายย่อยสูญเสียเงินเมื่อทำการเทรด CFDs กับทางแพลตฟอร์มนี้