ETF ซื้อยังไง ปี 2024 – ด้วยค่าธรรมเนียม 0% สำหรับมือใหม่
กองทุนรวมดัชนีที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ (ETF) ได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่นักลงทุนในประเทศไทย แถม ETF ยังเป็นเป้าหมายที่สมบูรณ์สำหรับการซื้อขายแบบ Active
แล้วการซื้อขาย ETF คืออะไรกันแน่ ETF ซื้อยังไง ด้วยการซื้อขาย ETF คุณสามารถเก็งกำไรในอุตสาหกรรมหรือภาคการตลาดทั้งหมดได้ครบจบในตัวเดียว การซื้อขาย ETF ในประเทศไทยเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์ สกุลเงินหรือสินค้าโภคภัณฑ์แต่ละรายการ
อยากเข้าสู่การซื้อขาย ETF ในประเทศไทยใช่ไหม ในคู่มือนี้เราจะอธิบายว่า กองทุน etf คืออะไร ซื้อ etf ต่างประเทศยังไง ETF ซื้อยังไง ซื้อ etf ที่ไหนดี ทั้งกองทุน etf ต่างประเทศ การเทรด ETF ต่างประเทศ วิธีการทำงานของการซื้อขาย ETF และแชร์กลยุทธ์ในการเทรด ETF ชั้นเลิศ นอกจากนี้เราจะรีวิวโบรกเกอร์ชั้นนำ 5 แห่งที่คุณสามารถใช้ในการเริ่มซื้อขาย ETF ในประเทศไทยได้ตั้งแต่วันนี้ ใครที่อยากเริ่มต้นซื้อขาย ETF ให้มาทางนี้เลย
พร้อมที่จะกระโจนเข้าสู่การซื้อขาย ETF ในประเทศไทยแล้วหรือยัง เราจะแสดงวิธีในการเริ่มต้นใช้งาน Libertex ซึ่งให้คุณสามารถทำการเปิดสถานะเพื่อซื้อขายโดยเป็นการเปิดสถานะฝั่งเดียวหรือการซื้อขายสัญญาการซื้อขายส่วนต่างหรือ CFD สำหรับ ETF ยอดนิยมมากกว่า 450 รายการ:
- 1 –เปิดบัญชีเพื่อซื้อขาย ETF
- 2 – เติมเงินในบัญชีของคุณ
- 3 – ทำการซื้อขาย ETF ครั้งแรกของคุณ
70.8% ของบัญชีนักเทรดรายย่อยสูญเสียเงินเมื่อทำการเทรด CFDs กับทางแพลตฟอร์มนี้
ETF คืออะไร
ETF คือตะกร้าสินทรัพย์ที่ซื้อขายกันในตลาดหลักทรัพย์ เพียง ETF ตัวเดียวอาจเปิดสถานะทางการเงินของคุณสู่หลักทรัพย์ที่แตกต่างกันหลายร้อยตัวหรือสินค้าโภคภัณฑ์ที่ไม่ซ้ำกันมากกว่าหนึ่งโหล ETF นั้นกลายเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างสูงเมื่อเทียบกับกองทุนรวมและทรัสต์เพื่อการลงทุน เนื่องจาก EFT สามารถซื้อขายได้ช่นเดียวกับหลักทรัพย์และสามารถซื้อได้ผ่านโบรกเกอร์หุ้นส่วนใหญ่ในประเทศไทย
ประเภทของ ETF
ETF อาจมีสินทรัพย์หลากหลายประเภทรวมกันอยู่ เป็นชุดผสมอันแตกต่างหลากหลาย มาลองดู ETF บางตัวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทยกันดีกว่า
หลักทรัพย์ ETF
หลักทรัพย์ ETF ตามชื่อของมันเลย มันคือตะกร้าหลักทรัพย์ เมื่อคุณซื้อหลักทรัพย์ ETF มันเกือบจะเหมือนกับการซื้อหุ้นเว้นแต่ว่าคุณจะสามารถซื้อหุ้นหลายๆ ตัวพร้อมกันได้
หลักทรัพย์ ETF นั้นมีหลากหลายรูปแบบ
ดัชนี ETF ถูกออกแบบมาเพื่อสะท้อนดัชนีตลาดหุ้นหลักๆ เช่น FTSE 100 หรือ AIM 50 ซึ่งมันมีหุ้นบลูชิพหรือหุ้นที่มีพื้นฐานธุรกิจดีและมีความมั่นคงสูงเช่นเดียวกัน ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงมูลค่าของ ETF จะสะท้อนการเปลี่ยนแปลงมูลค่าในตลาดใหญ่
ETF แบบปันผลนั้นจะลงทุนในหุ้นปันผลเป็นหลัก เมื่อเวลาผ่านไปมูลค่าของ ETF เหล่านี้อาจไม่เปลี่ยนแปลงไปมากเท่าไหร่นัก แต่คุณสามารถได้ผลตอบแทนจากเงินปันผลที่จ่ายโดย บริษัททั้งหมดตามกองทุนที่คุณถืออยู่
ETF อุตสาหกรรมช่วยเปิดสถานะของคุณต่อหลักทรัพย์จากตลาดเฉพาะ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถใช้ ETF อุตสาหกรรมเพื่อทำการซื้อขายในหุ้นธุรกิจทางยา หุ้นน้ำมันหรือหุ้นกัญชา
และยังมี ETF รูปแบบอื่นๆ อีกมากมายเช่นกัน บางคนมุ่งเน้นไปที่หลักทรัพย์ที่เติบโตได้ ในขณะที่บางคนมองหาหุ้นที่มีราคาต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน หากคุณต้องการซื้อขายหุ้นต่ำบาทหรือหุ้นที่มีราคาซื้อขายค่อนข้างถูก ก็ยังมี ETF สำหรับหุ้นเหล่านั้น
พันธบัตร ETF
พันธบัตร ETF คือกลุ่มพันธบัตร และบ่อยครั้งที่ ETF เหล่านี้ให้ผลตอบแทนผ่านการจ่ายจากพันธบัตรที่มันถืออยู่ อย่างไรก็ตามมูลค่าของพันธบัตร ETF สามารถขึ้นหรือลงได้เมื่ออัตราดอกเบี้ยและราคาพันธบัตรนั้นเปลี่ยนแปลง
ETF สินค้าโภคภัณฑ์
ETF สินค้าโภคภัณฑ์ช่วยเปิดสถานะของคุณต่อหลักทรัพย์จากตลาดเฉพาะ เช่น น้ำตาล กาแฟและน้ำมันในเวลาเดียว การซื้อขาย ETF สินค้าโภคภัณฑ์เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการเข้าสู่ในวงการการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ หากคุณต้องการเก็งกำไรในวงหารการเกษตรหรือพลังงานในวงกว้าง แทนที่จะพิจารณาราคาสินค้าเฉพาะเพียงตัวเดียว
ETF ฟอเร็กซ์
โดยทั่วไปแล้ว ETF ฟอเร็กซ์จะมีสัญญาสกุลเงินในอนาคต ช่วยเปิดสถานะของคุณต่อกลุ่มคู่ฟอเร็กซ์ที่ไม่ซ้ำกัน การซื้อขาย ETF เหล่านี้เป็นอีกวิธีหนึ่งในการเริ่มซื้อขายฟอเร็กซ์ และยังสามารถหลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงินที่มีราคาแพงได้อีกด้วย
การซื้อขาย ETF คืออะไรและมันทำงานอย่างไร
การซื้อขาย ETF ในประเทศไทยนั้น เป็นรูปแบบการซื้อขายที่เน้นการซื้อและขาย ETF เพื่อทำกำไร นี่เป็นสิ่งแตกต่างจากการลงทุน ETF อย่างชัดเจน เนื่องจากมันเป็นเรื่องปกติมากหากจะซื้อกองทุนและถือเอาไว้หลายเดือนหรือหลายปีในแต่ละครั้ง หากแต่ผู้ซื้อขาย ETF จำนวนมากจะทำการการซื้อขายรายวันหรือการซื้อขายแบบแกว่งรายสัปดาห์แทน
การซื้อขาย ETF นั้น จะขึ้นอยู่กับความจริงที่ว่าราคา ETF จะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดทั้งวัน แต่อย่างไรก็ตาม รูปแบบที่ราคาของ ETF เคลื่อนไหวนั้นจะแตกต่างจากการคลื่อนไหวของราคาหลักทรัพย์เล็กน้อย
ในขณะที่ราคาหุ้นเคลื่อนไหวตามการซื้อและขายเป็นหลัก แต่ราคา ETF ส่วนใหญ่นั้น เคลื่อนไหวตามการเปลี่ยนแปลงของราคาสินทรัพย์ที่พวกเขาถืออยู่ ลองดูตัวอย่าง ETF ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่มีหุ้นของ Amazon, Apple และ Facebook หากราคาหุ้นของทั้งสาม บริษัทเพิ่มขึ้น 5% มูลค่าของ ETF ก็จะเพิ่มขึ้น 5% ตามไปด้วย
และที่สำคัญ เนื่องจาก ETF มีสินทรัพย์หลากหลายรายการ การเปลี่ยนแปลงมูลค่าของ ETF จึงสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงราคาโดยเฉลี่ยของสินทรัพย์ตัวนั้นๆ ด้วย ดังนั้นหาก Amazon เพิ่มขึ้น 5% Apple ลดลง 2% และ Facebook เพิ่มขึ้น 1% มูลค่าของ ETF จะเพิ่มขึ้นเพียง 1.33% เท่านั้น ดังนั้นเมื่อทำการซื้อขาย ETF ในประเทศไทยจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพิจารณาข่าวหรือเหตุการณ์ใดๆ เกี่ยวกับตลาดนั้น ว่ามันจะส่งผลต่อทรัพย์สินทั้งหมดที่ ETF ถืออยู่อย่างไร
ค่าธรรมเนียมในการซื้อขาย ETF
เนื่องจาก ETF นั้นทำการซื้อขายในตลาดที่สำคัญเช่นเดียวกับหลักทรัพย์ การซื้อขาย ETF ในประเทศไทยจึงมีค่าคอมมิชชั่นและค่าธรรมเนียมเช่นเดียวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ โบรกเกอร์หลายแห่งในประเทศไทยให้คุณสามารถทำการซื้อขาย ETF แบบไม่มีค่าคอมมิชชั่น แม้ว่าบางรายจะคิดค่าธรรมเนียมในทุกครั้งที่คุณซื้อ-ขายหลายบาท หากคุณซื้อขาย ETF โดยใช้สัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFD) คุณอาจต้องจ่ายสเปรดประมาณ 0.1% ต่อการซื้อขายหรืออาจจะมากกว่านั้น
การซื้อขาย ETF จะมาพร้อมกับค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่ผู้ซื้อขายหุ้นแทบไม่ต้องสนใจ โดยทั่วไป ETF จะมีค่าธรรมเนียมการจัดการตั้งแต่ 0.01% ของการลงทุนต่อปีไปจนถึง 0.5% ต่อปีหรือมากกว่านั้น โดยทั่วไปผู้ซื้อขาย ETF ไม่จำเป็นต้องกังวลกับค่าธรรมเนียมเหล่านี้เพราะมันมีค่าน้อยมากมากเมื่อคุณถือ ETF เพียงสองสามวันต่อครั้ง
ประโยชน์ของการซื้อขาย ETF ในประเทศไทย
สงสัยว่าทำไมคุณควรซื้อขาย ETF มันมีประโยชน์มากมายจาก ETF ที่ทำให้การซื้อขาย ETF ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย
ETF ลดความเสี่ยง
เหตุผลอันดับหนึ่งในการซื้อขาย ETF อาจจะเป็นเพราะมันทำให้คุณได้เปิดสถานะทางการเงินกับสินทรัพย์ที่หลากหลายเพียงการซื้อขายแค่ครั้งเดียว และก็นั่นเป็นเรื่องใหญ่เพราะมันช่วยลดความเสี่ยงของการซื้อขายครั้งเดียวลงอย่างมาก ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการซื้อขายหุ้นของ บริษัท AstraZeneca การซื้อขายของคุณอาจไม่แน่นอนตามข่าวต่างๆ นานาที่มีต่อบริษัท อย่างไรก็ตามหากคุณซื้อขาย ETF เทคโนโลยีชีวภาพแทน ข่าวเสียหายใดๆ ที่เกี่ยวกับ AstraZeneca จะมีผลแบบจำกัดต่อมูลค่าการซื้อขายของคุณ
แน่นอนว่าเหรียญย่อมมีสองด้าน ข่าวดีเกี่ยวกับบริษัทสามารถผลักให้หุ้นของ AstraZeneca เพิ่มขึ้นหลายเปอร์เซ็นต์ แต่ ETF เทคโนโลยีชีวภาพซึ่ง AstraZeneca เป็นเพียงหนึ่งในหลายสิบบริษัทใน ETF นั้นอาจแทบจะไม่ขยับเขยื้อนจากข่าวที่สร้างผลกระทบ การซื้อขาย ETF ช่วยให้คุณสามารถลดความเสี่ยงได้อย่างมากแต่ก็แลกกับการจำกัดผลกำไรของคุณด้วยเช่นกัน
การเปิดสถานะแบบกว้าง
ประโยชน์ที่สำคัญอีกประการหนึ่งของการซื้อขาย ETF ในประเทศไทยก็คือการที่คุณจะได้เปิดสถานะต่อทรัพย์สินอันหลากหลาย คุณสามารถเก็งกำไรในอุตสาหกรรมหรือตลาดทั้งหมดได้ในเวลาเดียวกัน ตัวอย่างเช่น ด้วยการซื้อขาย ETF คุณสามารถเก็งกำไรในตลาดพลังงานโดยรวมได้ โดยไม่ต้องทำการซื้อขายหลายรายการซึ่งอาจมีราคาแพงเพราะมีสินค้าโภคภัณฑ์หลายชนิด
เข้าถึงได้ง่าย
ต่างจากกองทุนรวมหรือทรัสต์เพื่อการลงทุน คือคุณไม่จำเป็นต้องมีโบรกเกอร์แบบเจาะจงหรือมีคอนเนคชั่นกับการจัดการเงินเพื่อที่จะซื้อขาย ETF โดย ETF นั้น จะซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์และไม่มีขั้นต่ำในการลงทุน นอกจากนี้แพลตฟอร์มการซื้อขาย ETF บางแพลตฟอร์มยังอนุญาตให้คุณซื้อเศษส่วนของหุ้นจดทะเบียนของ ETF ได้อีกด้วย ดังนั้นจำนวนเงินที่คุณต้องใช้ในการเริ่มต้นการซื้อขายนั้นต่ำมาก
มีสภาพคล่องสูง
เนื่องจาก ETF ทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เช่น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มันจึงมีแนวโน้มที่จะมีสภาพคล่องสูงมาก ซึ่งมันก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการซื้อขาย ETF ในประเทศไทย เพราะมันหมายความว่าคุณจะไม่มีปัญหาในการซื้อและขาย ETF ได้อย่างรวดเร็ว แม้แต่ ETF ที่ได้รับความนิยมน้อยกว่า โบรกเกอร์ของคุณก็สามารถจับคู่การซื้อขายของคุณกับคนอื่นที่ต้องการซื้อหรือขายกองทุนนั้นได้อย่างง่ายดาย
ความเสี่ยงของการซื้อขาย ETF
การซื้อขาย ETF มีความเสี่ยงค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับการซื้อขายประเภทอื่นๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่มีความเสี่ยงเลย เช่นเดียวกับการซื้อขายทุกประเภท มันเป็นไปได้เสมอที่มูลค่าตำแหน่งของคุณจะลดลง ในกรณีนี้คุณอาจต้องปิดการซื้อขายของคุณด้วยผลลัพธ์ที่ขาดทุน
จำไว้เสมอว่าหากคุณซื้อขาย ETF ผ่านการซื้อขายสัญญาส่วนต่างกับเลเวอเรจ ความเสี่ยงของคุณจะสูงขึ้นตามไปด้วย การซื้อขายที่มีเลเวอเรจจะทวีคูณกำไรปละขาดทุนของคุณ
กลยุทธ์ในการซื้อขาย ETF
สิ่งสำคัญคือต้องเข้าสู่การซื้อขาย ETF ในประเทศไทยต้องมีกลยุทธ์ที่ชัดเจน ยิ่งกลยุทธ์การซื้อขาย ETF ของคุณดีเท่าใดคุณก็ยิ่งมีโอกาสที่จะได้กำไรที่สม่ำเสมอจากการซื้อขายมากขึ้นเท่านั้น ลองมาดูกลยุทธ์การซื้อขาย ETF ที่เป็นที่นิยมมากที่สุด 3 แบบที่คุณสามารถเริ่มนำใช้ได้เลยตั้งแต่วันนี้:
โมเมนตัมในการซื้อขาย ETF
โมเมนตัมในการซื้อขาย ETF เกี่ยวข้องกับการซื้อและขาย ETF ที่เคลื่อนไหวอย่างรุนแรงในทิศทางเดียว ETF มักได้รับโมเมนตัมจากความตื่นตัว (หรือซบเซา) ต่อภาคการตลาดที่เป็นตัวแทน ตัวอย่างเช่น หากภาคเทคโนโลยีกำลังเป็นที่นิยม อาจเห็น ETF เทคโนโลยีราคาพุ่งสูงขึ้นอย่างมากในช่วงหลายวัน
เป้าหมายของโมเมนตัมในการซื้อขายคือการล้อตามคลื่น แทนที่จะพยายามหาที่สมบูรณ์แบบของตลาด เพียงแต่ให้ออกจากตำแหน่งของคุณทันทีที่โมเมนตัมแสดงสัญญาณว่ามันเริ่มจะตก สัญญาณเหล่านี้อาจมาในรูปแบบของปริมาณการซื้อขายที่ลดลงหรือสัญญาณการซื้อขายจากตัวบ่งชี้ตามโมเมนตัม เช่น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่คอนเวอร์เจนซ์ – ไดเวอร์เจนซ์ (Moving average convergence-divergence (MACD))
การซื้อหรือขาย ETF มากเกินไป
เป็นอีกกลยุทธ์ในการซื้อขาย ETF ที่เรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพ ก็คือการตรวจสอบระดับภาวะซื้อและขายมากเกินไป ระดับเหล่านี้สามารถกำหนดได้โดยใช้ตัวบ่งชี้ทางเทคนิค เช่น RSI หรือ Relative strength index
กุญแจสำคัญในการซื้อขายประเภทนี้คือการกำหนดเวลาให้เหมาะสม อย่าซื้อ ETF ทันทีที่เกิดภาวะการขายมากเกินไป แต่ให้รอจนกว่ามันจะแสดงการกลับตัวอย่างชัดเจนเพื่อเปิดสถานะ่ขาขึ้น การพลาดในช่วงขาขึ้นเพียงเล็กน้อยนั้นดีกว่าที่จะเสี่ยงต่อการที่ ETF จะร่วงลงต่อไปโดยไม่มีวี่แววว่าจะกลับตัว
การซื้อขาย ETF แบบมีระยะขอบเขต
ETF บางครั้งจะเด่งกลับไปกลับมาระหว่างแนวรับและแนวต้าน และนี่เป็นโอกาสในการซื้อขาย ETF เนื่องจากคุณสามารถซื้อและขายตามการเคลื่อนไหวระหว่างระดับราคาเหล่านั้นได้ แต่จงระมัดระวังการซื้อขายรอบๆ แนวรับและแนวต้าน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการฝ่าวงล้อมมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในที่สุด เมื่อเป็นเช่นนั้นการเคลื่อนไหวของราคาจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง
เคล็ดลับสำหรับการซื้อขาย ETF ในประเทศไทย
การเริ่มต้นการซื้อขาย ETF ในประเทศไทยเป็นเรื่องง่าย แต่การเรียนรู้นั้นต้องใช้เวลาและการฝึกฝน เพื่อช่วยคุณพัฒนายิ่งขึ้น นี่คือเคล็ดลับที่เราแนะนำ 5 อย่าง:
#1. เข้าร่วมหลักสูตรในการซื้อขาย ETF
คู่มือนี้เป็นตัวเริ่มต้นที่ดีในการเริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับการซื้อขาย ETF ในประเทศไทย แต่หากคุณต้องการความช่วยเหลือโดยตรงและคำแนะนำกลยุทธ์ในการซื้อขาย ETF แล้ว เราขอแนะนำให้คุณเข้าอบรมหลักสูตรในการซื้อขาย ETF ซึ่งมันมีหลักสูตรออนไลน์มากมายที่เปิดสอนโดยผู้ซื้อขาย ETF มืออาชีพหรือจากโบรกเกอร์ ETF ที่ดีที่สุด
#2. หยิบหนังสือการซื้อขาย ETF ขึ้นมา
การอ่านหนังสือการซื้อขาย ETF เป็นอีกวิธีหนึ่งในการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับรายละเอียดของการซื้อขาย ETF ในประเทศไทย หนังสือเล่มโปรดของเรา 2 เล่ม คือ ‘Trading ETFs: Gaining an Edge with Technical Analysis’ โดย Deron Wagner และ ‘A Practical Guide to ETF Trading Systems’ โดย Anthony Garner
#3. ศึกษาเพียงอุตสาหกรรมเดียว
หากคุณเพิ่งเริ่มต้นการซื้อขาย ETF มันเป็นเรื่องที่ดีหากคุณจะโฟกัสไปที่อุตสาหกรรมหรือภาคการตลาดเพียงที่เดียว ยิ่งคุณรู้เกี่ยวกับตลาดนั้นมากเท่าไหร่ คุณก็จะสามารถสร้างกลยุทธ์ในการซื้อขาย ETF ได้ดีและเข้าใจว่าราคาในตลาดนั้นเคลื่อนไหวอย่างไร เมื่อคุณเข้าใจตลาดนั้นอย่างถ่องแท้ คุณควรย้ายไปสู่การซื้อขายในอุตสาหกรรมอื่น
#4. เรียนรู้การใช้ Stop Loss
Stop Loss มีบทบาทสำคัญในการซื้อขาย ETF มันใช้ในการป้องกันการขาดทุนของคุณเมื่อการซื้อขายกำลังจะแย่ลง การปกป้องกำไรที่คุณหามาได้อย่างยากลำบากจากการซื้อขายครั้งอื่นๆ เราขอแนะนำให้ใช้ Stop Loss กับการซื้อขาย ETF ในทุกๆ ครั้ง
#5. อดทน
ในการซื้อขาย ETF ต้องใช้ความอดทนเป็นอย่างมาก หากไม่มีโอกาสในการซื้อขายที่ดีที่เหมาะสมกับกลยุทธ์ของคุณ จงอย่าฝืน ควรพักสักจากการซื้อขายสักวัน ดีกว่าที่จะเร่งรีบทำการซื้อขายและเสียเงินไปในที่สุด
แพลตฟอร์มการซื้อขาย ETF ที่ดีที่สุด
การเลือกแพลตฟอร์มการซื้อขาย ETF ที่ดีที่สุดนั้นจะมีบทบาทสำคัญในการซื้อขายของคุณ ETF ที่คุณจะสามารถซื้อขายได้และการซื้อขายทุกครั้งจะมีค่าใช้จ่ายเท่าใดนั้น โบรกเกอร์ซื้อขาย ETF ของคุณจะเป็นผู้กำหนด นอกจากนี้แพลตฟอร์มการซื้อขาย ETF ของคุณยังเป็นแหล่งข้อมูลหลักสำหรับการวิเคราะห์และการศึกษาเพื่อเป็นแนวทางในการซื้อขายของคุณ
งั้นลองมาดูโบรกเกอร์ ETF ชั้นนำของไทย 5 ราย ที่คุณสามารถใช้เพื่อเริ่มการซื้อขายได้นับตั้งแต่วันนี้กันดีกว่า:
1. Libertex – โบรกเกอร์ให้บริการทั้ง CFD ETF ที่มีสเปรดเป็นศูนย์
Libertex อยู่ภายใต้การควบคุมของ CySEC ทำให้สามารถวางใจในเรื่องความปลอดภัยของเงินทุน และยังให้ข้อเสนอพิเศษที่ไม่เหมือนใครคือการไม่มีสเปรดใดๆ!
สเปรดคือความแตกต่างระหว่างราคาซื้อและราคาขาย และโบรกเกอร์มักจะคิดธรรมเนียมตรงนี้อยู่เสมอ แต่ด้วย Libertex คุณเพียงจ่ายค่าคอมมิชชั่นเล็กน้อยสำหรับการซื้อขาย นอกจากนั้นสำหรับบัญชีบางประเภท คุณยังจะได้รับส่วนลดสำหรับค่าคอมมิชชั่นถึง 50%
นอกจากนี้คุณสามารถซื้อขาย ETF CFD และตลาดอื่นๆ รวมถึงสกุลเงิน หลักทรัพย์และสกุลเงินดิจิทัลอีกมากมาย แพลตฟอร์มการซื้อขายทำงานบนเว็บและใช้งานง่าย
ข้อดี:
- เทรด CFD ด้วยสเปรด 0 และค่าคอมมิชชั่นต่ำ
- ควบคุมโดย CySEC
- ซื้อขายด้วยส่วนลด 50% สำหรับค่าคอมมิชชั่น
- ซื้อขายด้วยสเปรดเป็นศูนย์!
- แพลตฟอร์มการซื้อขายบนเว็บที่ใช้งานง่าย
- เข้าถึงสินทรัพย์ได้หลากหลายประเภท
- มีแหล่งเนื้อหาเพื่อการศึกษา
ข้อด้อย:
- มีเฉพาะ CFD
70.8% ของบัญชีนักเทรดรายย่อยสูญเสียเงินเมื่อทำการเทรด CFDs กับทางแพลตฟอร์มนี้
2. AvaTrade - แพลตฟอร์มการซื้อขาย ETF อันหลากหลาย
AvaTrade ให้บริการแพลตฟอร์มการซื้อขาย ETF และบัญชีหลากหลายประเภทแก่ผู้ใช้ เช่น การซื้อขาย CFD การเดิมพันสเปรด การซื้อขายออปชั่นและบัญชีอิสลามที่ไม่มีการสวอป บัญชีทั้งหมดนี้สามารถทำการซื้อขายได้โดยไม่มีค่าคอมมิชชั่นเช่นกัน
ด้วย AvaTrade คุณสามารถซื้อขาย ETF ที่หลากหลายแบบไม่ซ้ำกันซึ่งรวมถึงในตลาดอื่นๆ อีกมากกว่า 1,250 แห่ง และครอบคลุมถึงหลักทรัพย์ สกุลเงิน ดัชนี สินค้าโภคภัณฑ์และอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งหมดนี้สามารถทำการซื้อขายได้จากแพลตฟอร์มการซื้อขาย MetaTrader 4 และ MetaTrader 5 ที่เป็นที่นิยมมากและตลอดจนเว็บแพลตฟอร์มของโบรกเกอร์ที่มีคุณสมบัติหลากหลายเช่นเดียวกัน
การเปิดบัญชีเป็นกระบวนการง่ายๆ และสามารถทำได้ภายในไม่กี่นาที และคุณยังสามารถฝากและถอนเงินได้โดยไม่มีค่าธรรมเนียม โบรกเกอร์มีความน่าไว้วางใจอย่างมากเนื่องจากมีการควบคุมโดยเขตอำนาจศาลที่แตกต่างกัน 6 แห่งทั่วโลก
ข้อดี:
- ควบคุมโดยเขตอำนาจศาลที่แตกต่างกันใน 6 แห่ง
- แพลตฟอร์มบนเว็บที่ใช้งานง่าย
- ซื้อขายบนมากกว่า 1,250 ตลาดทั่วโลก
- ไม่มีค่าคอมมิชชั่น เพียงแค่สเปรดและสวอป
- ค่าธรรมเนียมการฝากและถอนเป็นศูนย์
ข้อด้อย:
- มีค่าธรรมเนียมหากไม่มีการใช้งาน
สินทรัพย์ดิจิตอลมีความผันผวนสูง และยังไม่ได้รับการกำกับดูแล
3. Quantum AI - แพลตฟอร์มการซื้อขาย ETF ที่ดีที่สุดพร้อมปัญญาประดิษฐ์
Quantum AI เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์ม ETF ที่ดีที่สุด บริการใช้ปัญญาประดิษฐ์และเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ควอนตัม ถือเป็นเลือกตัวเลือกอันดับต้น ๆ สำหรับคุณ สิ่งที่คุณต้องทำคือเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะกับกลยุทธ์ของคุณ และสนใจและทำการซื้อ ทางแพลตฟอร์มบอกว่าพวกเขาสามารถช่วยให้คุณได้รับผลกำไรสูงถึง 60% ต่อวัน
Quantum AI มี ETF ที่หลากหลาย รวมถึงเครื่องมือทางการเงินอื่นๆ เช่น หุ้น สกุลเงินดิจิทัล สินค้าโภคภัณฑ์ และอื่นๆ การซื้อขายทั้งหมดของคุณทำได้โดยไม่มีค่าคอมมิชชั่น และคุณไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมใดๆ สำหรับการถอนและฝากเงินเช่นกัน
คุณมีโอกาสที่จะทำให้แพลตฟอร์ม Quantum AI เป็นแบบอัตโนมัติทั้งหมด ซึ่งหมายความว่าจะทำการซื้อขายให้กับคุณ คุณสมบัติเช่น Stop Loss, Take Profit และการจำกัดจำนวนเงินต่อการซื้อขายก็มีให้ใช้งานเพื่อให้สามารถควบคุมได้อย่างเต็มที่
ข้อดี:
- พันธมิตรที่ได้รับการควบคุมอย่างเต็มที่
- ขั้นตอนการลงทะเบียนง่าย
- มี ETF ให้เลือกมากมาย
- 0 % คอมมิชชั่น
- ไม่มีค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม
- รับคำแนะนำเกี่ยวกับ ETF ที่จะซื้อขาย
ข้อด้อย:
- เฉพาะ CFDs
สินทรัพย์ดิจิตอลมีความผันผวนสูง และยังไม่ได้รับการกำกับดูแล
ข้อดีและข้อเสียของการซื้อขาย ETF
ข้อดี:
- เปิดสถานะทางการเงินของคุณต่อสินทรัพย์หลายรายการเพียงการซื้อขายแค่ครั้งเดียว
- ลดความเสี่ยงเมื่อเทียบกับการซื้อขายสินทรัพย์แต่ละรายการ
- ซื้อขายหลักทรัพย์ พันธบัตร ฟอเร็กซ์ สินค้าโภคภัณฑ์และอื่น ๆ
- เข้าถึงได้ง่ายด้วยขนาดการซื้อขายขั้นต่ำที่น้อยมาก
- ในการซื้อขาย CFD อนุญาตให้ใช้เลเวอเรจได้
- ซื้อขาย ETF โดยไม่มีค่าคอมมิชชั่นจากโบรกเกอร์หลายแห่งในประเทศไทย
ข้อด้อย:
- การเปลี่ยนแปลงราคา ETF นั้นยากที่จะคาดเดาได้
- ETF บางส่วนไม่ได้ออกแบบมาเพื่อจัดการความเสี่ยง
- ETF มีค่าธรรมเนียมในการจัดการ
ETF ซื้อยังไง - วิธีเริ่มต้นซื้อขาย ETF [Step by Step]
พร้อมที่จะกระโจนเข้าสู่การซื้อขาย ETF ในประเทศไทยแล้วหรือยัง เราจะแสดงวิธีในการเริ่มต้นใช้ Libertex และหนึ่งในโบรกเกอร์ที่ได้รับการควบคุม ซึ่งคุณสามารถรับคำแนะนำเกี่ยวกับ ETF ที่จะลงทุนได้
ขั้นตอนที่ 1: เปิดบัญชีที่ Libertex เพื่อซื้อขาย ETF
คุณจะถูกขอให้ป้อนข้อมูลส่วนบุคคล รายละเอียดการติดต่อ และหมายเลขประกันของประเทศ คุณต้องสร้างชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านด้วย สุดท้าย ให้ยืนยันหมายเลขโทรศัพท์มือถือของคุณ
ขั้นตอนที่ 2: ดาวน์โหลดแอป Libertex (ไม่บังคับ)
การพิจารณาดาวน์โหลดแอปการลงทุน Libertex ก็คุ้มค่าเช่นกัน สิ่งนี้จะช่วยให้คุณซื้อและขาย ETF ได้ด้วยการคลิกปุ่มผ่านโทรศัพท์ของคุณ สิ่งที่คุณต้องทำคือดาวน์โหลดแอปและเข้าสู่ระบบด้วยข้อมูลประจำตัว Libertex ของคุณ!
ขั้นตอนที่ 3: ฝากเงิน
แม้ว่า Libertex จะอนุญาตให้คุณซื้อ ETF ในประเทศไทย ได้อย่างน้อย 10 ดอลลาร์ แต่คุณจะต้องฝากเงินอย่างน้อย 50 ดอลลาร์ คุณสามารถทำได้ทันทีด้วยบัตรเดบิต/เครดิตประจำวันของคุณ
นอกจากนี้ยังรองรับ E-wallets ซึ่งรวมถึง Paypal, Skrill และ Neteller คุณสามารถโอนเงินจากบัญชีธนาคารในประเทศไทย ได้หากต้องการ แต่เตรียมใจไว้เลยว่าจะต้องรอเป็นเวลาหลายวันกว่าเงินจะมาถึง
ขั้นตอนที่ 4: ทำการซื้อขาย ETF ครั้งแรกของคุณ
สำหรับการซื้อขาย บัญชีของคุณพร้อมแล้ว และคุณสามารถเริ่มการซื้อขาย Libertex ของคุณได้ การซื้อขายทั้งหมดสามารถทำได้โดยตรงบนแอพมือถือ Libertex หรือแพลตฟอร์มออนไลน์บนเดสก์ท็อป
ข้อสรุป
การซื้อขาย ETF ช่วยให้คุณสามารถเก็งกำไรทั้งในภาคตลาดหรืออุตสาหกรรมทั้งหมดได้ในการซื้อขายเพียงครั้งเดียว ด้วยการเปิดสถานะของคุณต่อสินทรัพย์ที่หลากหลาย การซื้อขาย ETF ของประเทศไทยสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการซื้อขายบางส่วนของคุณได้ เมื่อเทียบกับการซื้อขายสินทรัพย์ในแต่ละตัว นอกจากนี้ ETF ยังเข้าและออกได้ง่าย โดยไม่ต้องใช้เงินจำนวนมากเพื่อทำการซื้อขาย
70.8% ของบัญชีนักเทรดรายย่อยสูญเสียเงินเมื่อทำการเทรด CFDs กับทางแพลตฟอร์มนี้