สกุลเงินดิจิทัล เช่น Bitcoin Ethereum และ Ripple มีปริมาณการลงทุนออนไลน์มหาศาลคิดเป็นมูลค่าหลายพันล้านในแต่ละวัน
นักเทรดส่วนใหญ่จะซื้อและขายคู่เงินดิจิทัลที่อ้างอิงกับเงินดอลลาร์สหรัฐ หรือคุณอาจตัดสินใจเทรดมูลค่าของสกุลเงินดิจิทัลหนึ่งกับสกุลเงินอื่น ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม วัตถุประสงค์คือการทำกำไรจากราคาสกุลเงินดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลง
คู่มือนี้จะอธิบายทุกสิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับว่า การเทรดคริปโตคืออะไร การเทรดคริปโต มือใหม่ รวมถึงเทรดคริปโต ที่ไหนดี ขั้นตอนการเทรดคริปโต วิธีเล่นคริปโต สำหรับมือใหม่ แอพเทรดคริปโต Cryptocurrency Trading ในประเทศไทย รวมถึงหลักการทำงานบนพื้นฐานของการลงทุนระยะสั้นและระยะยาว ความเสี่ยงและกลยุทธ์ที่คุณต้องพิจารณา วิธีเล่นเทรดคริปโต วิธีเริ่มต้นใช้งานบัญชี การเทรดคริปโตของไทย
คู่มือฉบับนี้
การลงทุนในเงินดิจิทัลเป็น Cryptocurrency Trading ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายคู่สกุลเงินดิจิทัลเพื่อทำกำไร หากต้องการสร้างรายได้ คุณต้องขายคู่สกุลเงินดิจิทัลให้ได้สูงกว่าราคาที่ซื้อมา
ในกรณีนี้ฟังก์ชั่นการเทรดคริปโต จะมีลักษณะเหมือนกับ Forex นั่นคือตลาดการเทรดทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับคู่เงิน ซึ่งประกอบด้วยสินทรัพย์สองรายการ อาจเป็น Ethereum กับดอลลาร์สหรัฐ หรือ Ripple กับ EOS อัตราแลกเปลี่ยนของแต่ละคู่จะมีเปลี่ยนแปลงแบบวินาทีต่อวินาที
หน้าที่ของคุณคือคาดการณ์ว่ามูลค่าอัตราแลกเปลี่ยนจะเพิ่มขึ้นหรือลดลง ข้อดีของ การเทรดคริปโต ในไทยคือคุณสามารถเข้าถึงตลาดได้จากที่บ้าน เพียงแค่ต้องเลือกโบรกเกอร์คริปโตออนไลน์ ฝากเงินด้วยบัตรเดบิต/เครดิตของไทย แล้วเริ่ม Crypto Trading เพื่อเทรดคริปโตได้ด้วยการคลิกปุ่ม
Cryptocurrency Trading หรือ Crypto Trading (การเทรดคริปโต) เป็นการลงทุนที่มาพร้อมความเสี่ยง ซึ่งคุณคาดหวังว่าจะได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นคุณจึงต้องเข้าใจว่า การเทรดคริปโตในไทยเป็นอย่างไรก่อนที่จะเข้าสู่วงการนี้
สิ่งที่คุณต้องรู้มีดังต่อไปนี้
การเทรดสกุลเงินดิจิทัลทางออนไลน์จะซื้อขายเป็นคู่ คล้ายกับการเทรด Forex ซึ่งแต่ละคู่จะมีอัตราแลกเปลี่ยน อัตราแลกเปลี่ยนนี้เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาแบบวินาทีต่อวินาที การเคลื่อนไหวของราคาเป็นไปตามอุปสงค์และอุปทาน หากปริมาณคนซื้อคู่เงินมากขึ้น ราคาจะสูงขึ้น หากปริมาณผู้ขายมากกว่าผู้ซื้อ ราคาคู่เงินก็จะลดลง
Crypto Trading (การเทรดคริปโต) มีคู่เงินสองประเภท ได้แก่
เมื่อตัดสินใจได้แล้วว่าจะเทรดคู่สกุลเงินดิจิทัลตัวไหน คุณก็ต้องตั้งค่าคำสั่งกับโบรกเกอร์ โดยต้องเลือกสถานะ “ซื้อ” หรือ “ขาย”
นอกจากนี้ยังมีประเภทคำสั่งซื้ออื่นๆ อีกมากมายที่คุณต้องรู้ก่อนเริ่มต้น Crypto Trading (การเทรดคริปโต) ในตลาดด้วยเงินจริง เช่น คุณต้องตัดสินใจระหว่างคำสั่ง “Market Order” หรือ “Limit Order”
สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าคำสั่ง Limit Order เหมาะกับการเทรดสกุลเงินดิจิตอลระยะสั้นมากกว่า เพราะว่าคุณสามารถระบุราคาที่แน่นอนเมื่อเข้าเทรดในตลาด ทำให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถปรับใช้กลยุทธ์การเข้าเทรดและออกจากเทรดได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้คำสั่ง Limit Order จะถูกดำเนินการหากเงื่อนไขตรงกับราคาที่ตั้งไว้และเมื่อราคาที่กำหนดตรงตามจุดเปิดใช้งานในตลาด
แม้ว่าจะไม่ใช่สิ่งที่บังคับให้ต้องทำ แต่คุณควรพิจารณาการตั้งค่าคำสั่งเพิ่มเติมอีกสองคำสั่งเมื่อเปิดสถานะสกุลเงินดิจิทัล ได้แก่ คำสั่ง “Stop Loss” และคำสั่ง “Take Profit”
คำสั่ง Stop Loss หรือคำสั่งหยุดการขาดทุน ช่วยให้คุณสามารถจำกัดปริมาณความสูญเสียจากการเทรด คุณต้องระบุราคาที่คุณจะออกจากสถานะเมื่อ Crypto Trading (การเทรดคริปโต) ไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์
ตัวอย่างเช่น
วิธีนี้ช่วยให้มั่นใจว่าคุณจะไม่ขาดทุนเกินกว่าระดับที่ยอมรับได้
การจัดการความเสี่ยงสำหรับ การเทรดคริปโตในไทยไม่ได้เป็นแค่การลดความสูญเสียเท่านั้น แต่คุณต้องมีแผนการที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้แน่ใจว่าจะสามารถล็อกกำไรไว้ได้ ซึ่งทำได้โดยการตั้งคำสั่ง Take Profit คำสั่งนี้ใช้ได้ผลเหมือนกับคำสั่งหยุดการขาดทุน แต่หลักการทำงานจะตรงกันข้าม
คำสั่ง Stop Loss และคำสั่ง Take Profit ช่วยให้แน่ใจว่าการเทรดของคุณจะเป็นไปตามแผนการจัดการความเสี่ยงที่รัดกุม และหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากการปิดสถานะด้วยตนเอง เนื่องจากสถานะของคุณจะถูกปิดโดยอัตโนมัติเมื่อเป็นไปตามเงื่อนไขราคาที่กำหนด
หลังจากเปิดสถานะแล้วก็ต้องรอว่าตลาดจะเคลื่อนที่ไปในทิศทางใด คุณจึงจะรู้ได้ว่าสถานะที่เปิดไว้จะทำกำไรหรือขาดทุน
หากคุณยังไม่เคยใช้ Crypto Trading หรือเทรดคริปโตออนไลน์มาก่อน ดูตัวอย่างด้านล่างว่าจะทำกำไรได้อย่างไร
สมมติว่าคุณคาดการณ์ว่าราคา BTC/USD จะเพิ่มขึ้น
ดังนั้นเงินลงทุน 300 ดอลลาร์สหรัฐ บวกกับกำไร 5% แปลว่าคุณทำเงินได้ 15 ดอลลาร์สหรัฐ
สมมติว่าคุณคาดการณ์ว่าราคา ETH/USD จะลดลง
เงินลงทุน 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ กำไร 28% ทำให้คุณได้เงิน 280 ดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้คุณต้องคำนึงถึงค่าธรรมเนียมการฝากเงินไว้เงินข้ามคืนด้วย เราจะกล่าวถึงรายละเอียดเรื่องนี้เพิ่มเติมภายหลัง เนื่องจากคุณได้เปิดสถานะไว้เป็นเวลาหลายวัน เว็บเทรดคริปโต ส่วนใหญ่จะเก็บดอกเบี้ยเล็กน้อยในแต่ละวันที่คุณเปิดสถานะไว้
ตลาดการเทรดคริปโต โดยส่วนใหญ่จะเป็นการเทรด Bitcoin ของปริมาณการซื้อขาย BTC/USD ช่วง 24 ชั่วโมงก่อนเขียนบทความนี้ ปริมาณการเทรด Bitcoin ออนไลน์มีมูลค่าสูงกว่า 25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
การหมุนเวียนสกุลเงินดิจิทัลมีเพียงไม่ถึง 7,000 สกุล สกุลเงินดิจิทัลบางตัวมีมูลค่าตลาดหลายพันล้านบาท แต่สกุลเงินดิจิทัลบางตัวก็ไร้ค่า
พิจารณาสกุลเงินดิจิทัลต่อไปนี้เพื่อเลือกเทรดคู่เงินที่ให้ประโยชน์จากระดับสภาพคล่องและมีปริมาณการซื้อขายเพียงพอ
ดังที่ได้กล่าวไว้ว่าคู่สกุลเงินดิจิทัลส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับดอลลาร์สหรัฐ
ในการเทรดออนไลน์มีทรัพย์สินมากมายให้เลือกเทรด ไม่ว่าจะเป็นการเทรดหุ้น การเทรดสินค้าโภคภัณฑ์ ETFs หรือพันธบัตร ซึ่งนักลงทุนจะเลือกซื้อขายสินทรัพย์แต่ละประเภท
หากคุณยังไม่แน่ใจว่าการเทรดคริปโต ในไทยเหมาะกับคุณหรือไม่ ลองดูข้อดีด้านล่างนี้
คู่มือนี้อาจมุ่งเน้นเกี่ยวกับการเทรดคริปโต สำหรับผู้เริ่มต้นที่ต้องการเทรดระยะสั้น แต่การซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลเป็นสิ่งที่เหมาะกับนักลงทุนระยะยาวด้วยเช่นกัน นักลงทุนในไทยจำนวนมากสนใจซื้อสกุลเงินดิจิทัลต่างๆ เช่น Bitcoin เพราะเชื่อว่ามูลค่าในอนาคตจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก
หรือที่เรียกว่ากลยุทธ์ “ซื้อแล้วถือเป็นระยะเวลานาน (buy and hold)” ซึ่งเป็นการถือสกุลเงินดิจิทัลที่เลือกไว้เป็นเวลาหลายเดือนหรือหลายปี การเทรดแบบนี้ต้องคำนึงถึงการใช้ตราสาร CFD และหลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียมการข้ามคืนที่อาจเกิดขึ้น คุณจึงต้องเทรดกับโบรกเกอร์ที่ไม่มีค่าคอมมิชชั่น เช่น eToro เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเสียค่าคอมมิชชั่นแม้แต่บาทเดียว
Crypto Trading (การเทรดคริปโต) กับโบรกเกอร์ CFD จะสามารถใช้ “เลเวอเรจ” ในการเทรดได้ หมายความว่าคุณสามารถซื้อขายด้วยเงินมากกว่าที่คุณมีในบัญชี กฎระเบียบของ European Securities and Markets Authority (ESMA) กำหนดให้โบรกเกอร์สามารถใช้เลเวอเรจได้สูงสุด 1:2 สำหรับการเทรดสกุลเงินดิจิทัล
อย่างไรก็ตาม หากอยู่ภายใต้การควบคุมของ FCA จะถูกห้ามไม่ให้นำเสนอ CFD ในสกุลเงินดิจิทัล
เมื่อนักเทรดไทยคาดว่าราคาหุ้นของบริษัทจะเพิ่มขึ้นก็จะซื้อหุ้นจากโบรกเกอร์หุ้น แม้ว่าสิ่งนี้จะตอบสนองความต้องการของนักลงทุนส่วนใหญ่ แต่ก็ไม่อนุญาตให้ทำกำไรจากตลาดที่ตกต่ำ
แต่สิ่งนี้ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับการเทรดคริปโต ในไทยเนื่องจากคุณจะมีตัวเลือกในการเปิดสถานะ Long หรือ Short เสมอ
ซึ่งทำได้เมื่อคุณคาดการณ์ว่าราคาคู่สกุลเงินดิจิทัลจะลดลง ท้ายที่สุดแล้วคุณจะมีโอกาสทำกำไรไม่ว่าทิศทางตลาดจะเป็นอย่างไรก็ตาม
การลงทุนแบบเดิม เช่น หลักทรัพย์และหุ้น จะมีการซื้อขายในช่วงเวลามาตรฐาน โดยทั่วไปอยู่ระหว่างเวลา 8.00 น. ถึง 17.00 น. ในวันจันทร์ถึงวันศุกร์ วันเวลาที่จำกัดนี้อาจทำให้คุณหงุดหงิดได้
ยกตัวอย่างเช่น สมมติว่าเย็นวันศุกร์ คุณต้องการถอนเงินออกจากการลงทุนในหุ้น ส่วนใหญ่แล้วคุณจะไม่สามารถทำได้จนกว่าตลาดจะเปิดในเช้าวันจันทร์ หรือหากคุณต้องการเทรดหุ้นวันเสาร์และอาทิตย์ คุณก็ทำไม่ได้เพราะว่าโบรกเกอร์ในไทยไม่อนุญาตให้ทำเช่นนี้
แต่ตลาดสกุลเงินดิจิทัลให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง นั่นแปลว่าคุณสามารถเปิดและปิดสถานะเมื่อไรก็ได้ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็ตาม
แม้ว่าการเทรดสกุลเงินดิจิทัลออนไลน์จะมีประโยชน์มากมาย แต่คุณต้องคำนึงถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นด้วยเช่นกัน
ระดับความผันผวนของการเทรดคริปโตในไทยอาจสูงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเทรดคู่เงินที่มีสภาพคล่องน้อย ไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่อย่างใดสำหรับสกุลเงินดิจิทัลที่ราคาจะเพิ่มขึ้นหรือลดมากกว่า 10% ภายในวันเดียว แต่สถานการณ์ปกติแบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นกับการเทรดสินทรัพย์หลัก เช่น หุ้นหรือพันธบัตร
ดังนั้นคุณต้องตั้งคำสั่ง Stop Loss และ Take Profit ที่เหมาะสมในการเทรดทั้งหมด เพื่อช่วยให้มั่นใจว่าจะสามารถลดความสูญเสียและล็อกกำไรที่อาจเกิดขึ้นได้โดยอัตโนมัติ
การเทรดคริปโต ส่วนใหญ่ในไทยเป็นการซื้อขายสกุลเงินดิจิตอลที่ไม่มีการควบคุม โดยทั่วไปเป็นแพลตฟอร์มการเทรดที่ไม่สัมพันธ์กับเงินแบบเดิม การฝากถอน กำไรและขาดทุนทั้งหมดจะเป็นสกุลเงินดิจิทัล
ซึ่งสิ่งนี้อาจเป็นประโยชน์สำหรับนักเทรดที่ไม่ต้องการส่งเอกสารยืนยันตัวตน หรือต้องการใช้เลเวอเรจที่สูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม การเทรดสกุลเงินดิจิทัลที่ไม่มีหน่วยงานควบคุมหมายความว่าคุณกำลังเผชิญกับความเสี่ยงครั้งใหญ่ แนะนำให้เทรดกับโบรกเกอร์ CFD ที่มีใบอนุญาตและได้รับการควบคุม เพื่อให้มั่นใจว่าเงินของคุณจะได้รับการคุ้มครองตลอดเวลา
เมื่อรู้แล้วว่าหลักการ การเทรดคริปโต ในไทยเป็นอย่างไร ต่อไปเราจะมาดูที่กลยุทธ์ต่างๆ นักเทรดที่เชี่ยวชาญมักปรับใช้กลยุทธ์มากมาย การใช้หลายวิธีเพื่อรับมือกับการซื้อและขายคู่สกุลเงินดิจิทัลจะทำให้คุณมีโอกาสทำกำไรได้ในระยะยาว
กลยุทธ์การเทรดคริปโต ที่นิยม ได้แก่
สวิงเทรดเป็นกลยุทธ์การเทรดคริปโต ที่ยืดหยุ่น และเหมาะกับมือใหม่ แนวคิดคือการซื้อและขายคู่สกุลเงินดิจิทัลเมื่อมีแนวโน้มใหม่เกิดขึ้น ซึ่งอาจเป็นแนวโน้มระยะสั้นที่นานหลายวัน อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์นี้ไม่เหมือนกับการเดย์เทรด เนื่องจากสวิงเทรดจะเปิดสถานะไว้เป็นเวลาหลายสัปดาห์ได้โดยไม่มีปัญหา
กรณีนี้เกิดขึ้นได้เมื่อคู่สกุลเงินดิจิทัลอยู่ในเส้นทางขาขึ้นหรือขาลงเป็นเวลานาน เช่น หากตลาดเชื่อมั่นว่าคู่ ETH/USD เป็น “ขาขึ้น” นักเทรดที่ใช้กลยุทธ์สวิงเทรดจะเปิดสถานะซื้อไว้ตราบใดที่แนวโน้มยังคงอยู่
เมื่อคิดว่าความเชื่อมั่นของตลาดที่มีต่อ ETH/USD ไม่เป็นบวกอีกต่อไป นักเทรดมีแนวโน้มที่จะปิดสถานะและส่งคำสั่งขาย ทำให้นักเทรดที่ใช้กลยุทธ์สวิงเทรดมั่นใจได้ว่าจะสามารถหาจุดที่ตลาดปรับฐาน
ตลาดปรับฐานเกิดขึ้นกับตลาดซื้อขายทั้งหมด ตลาดปรับฐานเกิดขึ้นเมื่อแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลงหยุดลงชั่วคราว เช่น สมมติว่าคู่ BTC/XRP แกว่งตัวขึ้นเป็นเวลานาน 3 สัปดาห์ ซึ่งในช่วงนี้ราคาเพิ่มขึ้นสูงถึง 40%
แต่เป็นไปไม่ได้ที่การแกว่งตัวขาขึ้นจะดำเนินต่อไปโดยไม่มีกำหนด เพราะนักลงทุนบางส่วนจะขายออกเพื่อทำกำไร เมื่อมีการขายออก ราคาของ BTC/XRP จะย่อตัวลงในทิศทางตรงกันข้าม หากมีปริมาณผู้ขายมากกว่าผู้ซื้อก็จะส่งผลต่อราคาของสินทรัพย์โดยตรง
อย่างไรก็ตาม การปรับฐานไม่ได้แปลว่าแนวโน้มขาขึ้นของคู่ BTC/XRP สิ้นสุดลง แต่เป็นการหยุดชั่วคราวของแนวโน้ม นักเทรดสกุลเงินดิจิทัลที่ชาญฉลาดมักเปิดสถานะซื้อ BTC/XRP เมื่อตลาดปรับฐาน ทำให้ซื้อได้ราคาที่ถูกลงเพื่อทำไรจากแนวโน้มขาขึ้น
Relative Strength Index (RSI) เป็นตัวชี้วัดทางเทคนิคที่นักเทรดสกุลเงินดิจิทัลที่มีประสบการณ์ชอบใช้งาน ตัวชี้วัดนี้ช่วยให้เรารู้ว่าคู่สกุลเงินดิจิทัลอยู่ในโซน Overbought (ซื้อมากเกินไป) หรือ Oversold (ขายมากเกินไป)
แปลว่าสินทรัพย์อาจอยู่ในภาวะตลาด “หมี” แต่มีโอกาสที่จะปรับฐาน ทำให้มีโอกาสเทรดระยะสั้นโดยการหาจุดกลับตัวก่อนที่มันจะเกิดขึ้น
หาก RSI บ่งชี้ว่าคู่สกุลเงินดิจิทัลอยู่ในโซน Oversold อาจชี้ให้เห็นว่ามีผู้ซื้อจำนวนมากเข้ามาในตลาด เมื่อคาดว่าตลาดจะกลับตัว ทำให้คุณมีโอกาสเข้าและออกจากสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างรวดเร็ว
แพลตฟอร์มการเทรดคริปโต ในไทยทั้งหมดจะเก็บค่าธรรมเนียมบางอย่าง เนื่องจากโบรกเกอร์ส่วนให้บริการซื้อขายเพื่อเป็นช่องทางสร้างรายได้
ด้านล่างเป็นค่าธรรมเนียมการเทรดคริปโตที่สำคัญที่คุณต้องทราบ
ผู้ให้บริการการเทรดคริปโต บางแห่งจะเรียกเก็บค่าคอมมิชชั่นสำหรับการซื้อขายสถานะ หมายความว่าคุณต้องจ่ายค่าธรรมเนียมตอนเข้าเทรด และจ่ายค่าธรรมเนียมอีกครั้งเมื่อปิดการเทรด
ปกติจะเรียกเก็บเป็นเปอร์เซ็นต์ เช่น หากโบรกเกอร์เก็บ 0.4% คุณต้องคูณเปอร์เซ็นต์นี้กับเงินลงทุนของคุณ รายชื่อโบรกเกอร์ในไทยส่วนใหญ่ที่แสดงไว้ในหน้านี้อนุญาตให้คุณเทรดสกุลเงินดิจิทัลได้โดยไม่มีค่าคอมมิชชั่น
เมื่อเทรดสกุลเงินดิจิทัลออนไลน์ คุณควรเข้าใจเกี่ยวกับสเปรด สเปรดคือความแตกต่างระหว่างราคา “ซื้อ” และราคา “ขาย” ของสินทรัพย์ การคิดส่วนต่างของราคาเป็นเปอร์เซ็นต์จะช่วยให้คุณเข้าใจได้ง่าย เพราะคุณจะได้รู้ว่าต้องทำกำไรเท่าไรถึงจะคุ้มทุน
พูดง่ายๆ ได้ว่าหากคุณต้องทำกำไรอย่างน้อย 1.6% จึงจะถึงจุดคุ้มทุน ส่วนที่นอกเหนือจากตัวเลขนี้คือกำไรที่คุณได้รับ
การเลือกแพลตฟอร์มการเทรดคริปโต ในไทยมีค่าธรรมเนียมอื่นๆ ที่ต้องคำนึงถึง ได้แก่
ปัจจุบันนักลงทุนทุกรูปแบบกำลังใช้ซอฟต์แวร์ขั้นสูงในการเทรดสกุลเงินดิจิทัล อัลกอริทึมพื้นฐานถูกตั้งโปรแกรมไว้ล่วงหน้าเพื่อให้ทำตามเงื่อนไขการเทรดที่เข้มงวด หมายความว่าการซื้อขายจะไม่มีอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องหรือได้รับผลกระทบจากความล้มเหลว
ซอฟต์แวร์เทรดคริปโต จะสแกนตลาดตลอดเวลา จำนวนคู่ที่กำหนดเป้าหมายจึงทำได้ไม่จำกัด เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลและ/หรือการเทรด การใช้ซอฟต์แวร์มีประโยชน์หากคุณต้องการเทรดแบบเต็มเวลา แต่ไม่มีเวลามานั่งเฝ้าหน้าจอทั้งวัน
ในตลาดมีผู้ให้บริการซอฟต์แวร์เทรดคริปโต หลายเจ้า บางที่มีประวัติยาวนานและการทำกำไรอย่างสม่ำเสมอ แต่หลายๆ ที่ก็ควรหลีกเลี่ยง เนื่องจากระบุไว้อย่างชัดเจนว่าไม่สามารถสำรองข้อมูลที่ตรวจสอบได้
อย่างไรก็ตาม หากคุณเลือกผู้ให้บริการเทรดคริปโต ที่ต้องการได้แล้วให้ดำเนินการดังนี้
เมื่อดำเนินการตามขั้นตอนข้างต้นทั้งหมดแล้ว คุณต้องทำเครื่องหมายในช่องบนแพลตฟอร์ม MT4 เพื่ออนุญาตให้ซอฟต์แวร์ทำการเทรดในนามของคุณ ซอฟต์แวร์จะเปิดสถานะซื้อและสถานะขายแทนคุณ โดยมีเป้าหมายในการสร้างกำไรอย่างสม่ำเสมอ
หมายเหตุ: ซอฟต์แวร์ Cryptocurrency Trading มักเรียกกันว่า “บอท Cryptocurrency Trading” คำสองคำนี้ใช้แทนกันได้ ซึ่งอ้างอิงถึงกระบวนการเทรดอัตโนมัติผ่าน MT4
หากคุณไม่อยากให้โปรแกรมซอฟต์แวร์เทรดแทนคุณ คุณอาจพิจารณาอีกทางเลือกด้วยการใช้บริการสัญญาณ โบรกเกอร์จะสร้างอัลกอริธึมการเทรดคริปโต ขึ้นมาอย่างสมบูรณ์ ซึ่งมีศักยภาพในการสแกนตลาดทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง แต่แทนที่จะส่งคำสั่งซื้อและขายแทนคุณ ผู้ให้บริการสัญญาณจะส่งการแจ้งเตือน พร้อมรายละเอียดสิ่งที่พบและแนวทางการดำเนินการ
รวมถึงสิ่งต่อไปนี้
คุณจะมีข้อมูลทั้งหมดที่ต้องการเพื่อดำเนินการตามคำแนะนำสำหรับ Cryptocurrency Trading (การเทรดคริปโต) ในด้านผู้ให้บริการ Learn 2 Trade เป็นผู้ให้บริการที่ได้รับความนิยมจากนักเทรดไทย แพลตฟอร์มนี้มีชื่อเสียงมากเกี่ยวกับการให้สัญญาณและมีประสิทธิภาพเหนือกว่าที่อื่นทั้งในตลาดฟอเร็กซ์และสกุลเงินดิจิตอล
Learn 2 Trade นำเสนอแผนพรีเมียมในราคาเพียง 14 ปอนด์ต่อเดือน ซึ่งมาพร้อมสัญญาณเทรด 3-5 สัญญาณต่อวัน (จันทร์ถึงวันศุกร์)
หากไม่พอใจบริการ คุณมีเวลาเปลี่ยนใจ 30 วัน เนื่องจากผู้ให้บริการนี้รับประกันคืนเงิน หรือคุณอาจเริ่มต้นด้วยแผนฟรีที่ให้ 3 สัญญาณต่อสัปดาห์ คุณสามารถใช้แผนบริการฟรีได้เท่าที่ต้องการ โดยไม่ต้องระบุข้อมูลการชำระเงินใดๆ
หากคุณอ่านคู่มือการเทรดคริปโตในไทยจนถึงจุดนี้ คุณจะรู้ว่าการเทรดสกุลเงินดิจิทัลไม่ใช่แค่การเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์และทำกำไรอย่างต่อเนื่อง แต่มีหลายสิ่งหลายอย่างที่คุณต้องเรียนรู้เพื่อให้มีโอกาสประสบความสำเร็จจากการเทรดเงินคริปโต
เพียงแค่อ่าน 5 เคล็ดลับการเทรดคริปโต ที่มีประโยชน์ด้านล่าง
ในโลกออนไลน์มีโบรกเกอร์และผู้ให้บริการนับร้อยที่คุณสามารถเทรดสกุลเงินดิจิทัล ถึงแม้จะมีข้อควรพิจารณาอื่นๆ อีกหลายอย่าง แต่สิ่งสำคัญคือการเลือกแพลตฟอร์มที่ได้รับการควบคุม เพื่อให้แน่ใจว่าเงินของคุณจะได้รับการปกป้องอยู่ตลอดเวลา
นอกจากนี้ต้องคำนึงถึงเรื่องค่าธรรมเนียมการเทรดคริปโต เพื่อให้คุณถูกเก็บค่าธรรมเนียมน้อยที่สุด แนะนำให้ใช้แพลตฟอร์มที่สามารถเทรดสกุลเงินดิจิทัลได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่น เช่นโบรกเกอร์ eToro AvaTrade และ Capital.com แต่ละเจ้ามีหน่วยงานควบคุมอย่างเข้มงวด
ก่อนที่จะเริ่มต้นเทรดสกุลเงินดิจิทัล คุณต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเทรดคริปโต ไม่ใช่แค่รายละเอียดของสกุลเงินดิจิทัลเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงหลักการเทรดด้วย ยกตัวอย่างเช่น คุณต้องเรียนรู้วิธีใช้คำสั่ง Market Order และกลยุทธ์การเทรดอย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ยังต้องเรียนรู้วิธีการรวบรวมข้อมูลและการใช้เครื่องมือจัดการความเสี่ยง เพื่อจำกัดการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งมีคอร์สสอนเทรดออนไลน์เกี่ยวกับการเทรดคริปโต มากมายที่นำมาปรับใช้ได้อย่างสะดวก บางคอร์สอนุญาตให้คุณสามารถเข้าเรียนได้ตามต้องการ ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งหากคุณมีเวลาจำกัด
ประโยชน์หลักอย่างหนึ่งของการใช้กลยุทธ์ซื้อแล้วถือเป็นระยะเวลานานคือไม่ต้องกังวลกับแนวโน้มราคาระยะสั้น เพียงแค่ซื้อสกุลเงินดิจิทัลที่ต้องการแล้วเก็บเหรียญไว้เป็นเวลาหลายเดือนหรือหลายปี อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการเทรดสกุลเงินดิจิทัลอย่างแท้จริง คุณจะต้องให้ความสำคัญกับการเคลื่อนไหวระยะสั้น
นักเทรดสกุลเงินดิจิทัลส่วนใหญ่มักเปิดสถานะไว้ไม่เกินหนึ่งวัน แม้แต่นักเทรดที่ใช้กลยุทธ์สวิงเทรดก็มีระยะเวลาเฉลี่ยของสถานะไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ ดังนั้นคุณจึงต้องเรียนรู้ วิธีเทรดคริปโต วิธีอ่านกราฟ และวิเคราะห์กราฟให้เข้าใจ ในการอ่านกราฟคุณต้องหาแนวโน้มที่เป็นไปได้ที่กำลังเกิดขึ้น
แพลตฟอร์มการเทรดคริปโต ในไทยส่วนใหญ่จะให้คุณเทรดด้วย “เงินกระดาษ” ผ่านบัญชีทดลอง ซึ่งเป็นสิ่งที่สะท้อนเงื่อนไขการเทรดจริงในแง่การเคลื่อนไหวของราคา ปริมาณ และแนวโน้ม แต่ความแตกต่างที่สำคัญคือเป็นการเทรดในสภาพแวดล้อมที่ปราศจากความเสี่ยง
หมายความว่าคุณสามารถรับมือกับคำสั่งซื้อขาย ณ ราคาตลาด และกลยุทธ์การเทรดได้โดยไม่ต้องเสี่ยงกับเงินตัวเอง คุณควรหลีกเลี่ยงการเทรดด้วยเงินจริงจนกว่าคุณจะฝึกเทรดเพื่อทำกำไรได้อย่างสม่ำเสมอ
นักเทรดไทยจำนวนมากไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับการคัดลอกการเทรด โบรกเกอร์ eToro ที่ได้รับการควบคุมโดย FCA มีบริการนี้ ทำให้สามารถเลือกนักเทรดที่มีผลงานดี เชี่ยวชาญการเทรด และมีประวัติการซื้อขายยาวนาน (ตรวจสอบได้)
เกณฑ์การค้นหานักเทรดอาจอ้างอิงจากผลตอบแทนรายเดือน ระดับความเสี่ยง คู่สกุลเงินดิจิทัลที่เทรด และระยะเวลาเทรดเฉลี่ย
เมื่อพบนักเทรดสกุลเงินดิจิทัลที่ชื่นชอบแล้ว คุณสามารถคัดลอกการเทรดแบบเดียวกันได้
อีกทางเลือกหนึ่งคือการใช้ Quantum AI ที่นี่คุณจะได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลที่จะซื้อและขาย แพลตฟอร์มจะบอกคุณเมื่อจะทำการเทรด นี่เป็นโอกาสการเรียนรู้ที่ดีสำหรับผู้ที่ไม่มีประสบการณ์มากนัก รวมทั้งผู้ที่ไม่ต้องการใช้เวลาทำการรวบรวมข้อมูลมากนัก
ดังที่ได้กล่าวไว้ว่าในตลาดมีแพลตฟอร์มการเทรดคริปโต ในไทยหลายร้อยแห่ง ดังนั้นอาจเป็นเรื่องยากที่จะหาว่าโบรกเกอร์เจ้าไหนเหมาะกับความต้องการของคุณ สิ่งที่คุณต้องพิจารณาคือหน่วยงานกำกับดูแล ค่าคอมมิชชัน สเปรด วิธีการชำระเงิน และอีกมากมาย
เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ด้านล่างนี้เป็นรายชื่อแพลตฟอร์มการเทรดคริปโตที่ดีที่สุดของปี 2022
eToro แพลตฟอร์มซื้อขายที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้งานมาก เป็นแพลตฟอร์มเทรดออนไลน์ที่นำเสนอสินทรัพย์มากมายหลายประเภท นอกเหนือจากหุ้น ETF สินค้าโภคภัณฑ์ และ Forex ที่นี่ยังมีการเทรดคริปโต ที่คุณสามารถเทรดสกุลเงินดิจิทัลได้ ซึ่งจริงๆ แล้วแบ่งออกเป็นสองส่วน อย่างแรกคือ eToro ช่วยให้คุณลงทุนใน 16 สกุลเงินดิจิทัล
การเทรดไม่มีค่าคอมมิชชั่น ดังนั้นคุณจึงเปิดสถานะซื้อไว้ได้นานตามความต้องการ หากคุณสนใจการเทรดคริปโต ระยะสั้นมากขึ้น คุณสามารถเทรดคู่เงินผ่าน CFD ได้ คุณสามารถใช้เลเวอเรจ 1:2 รวมถึงการขายชอร์ต การเทรด CFD ของสกุลเงินดิจิทัลที่ eToro ไม่มีค่าคอมมิชชั่น แต่จะมีค่าธรรมเนียมข้ามคืน
นอกจากนี้คุณยังสามารถเข้าถึงคู่สกุลเงินดิจิทัลได้อย่างเต็มที่ เช่น BTC/ETH และ BTC/BCH ส่วนด้านการใช้งานถือว่าแพลตฟอร์มของ eToro ใช้งานง่ายสำหรับมือใหม่ โดยเฉพาะฟีเจอร์คัดลอกการเทรด (Copy Trading) ของแพลตฟอร์ม ฟังก์ชันก์การเทรดนี้ช่วยให้คุณสามารถคัดลอกคำสั่งซื้อและคำสั่งขายของนักเทรดเงินคริปโตที่มีประสบการณ์ไปยังพอร์ตของคุณ ซึ่งดีมากๆ เพราะว่าไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม
หากคุณชอบฟังก์ชันของ eToro แพลตฟอร์มนี้กำหนดเงินฝากขั้นต่ำเพียง 200 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 6,000 บาท) โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องลงทุนเต็มจำนวนหรือเทรดเต็มจำนวนเงินที่ฝาก แต่ eToro ให้สามารถคุณเทรดขั้นต่ำที่ 50 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,500 บาท) โบรกเกอร์นี้มีช่องทางการชำระเงินหลายวิธี รวมถึงการฝากเงินด้วยบัตรเดบิต/เครดิตบัญชีธนาคารไทย และอี-วอลเล็ท เช่น PayPal อีกทั้งยังมีแอปพลิเคชันมือถือของ eToro ซึ่งเป็นหนึ่งในแอปเทรดคริปโตที่ดีที่สุดในไทย
ค่าธรรมเนียม eToro
ข้อดี:
ข้อด้อย:
68% ของบัญชีนักเทรดรายย่อยสูญเสียเงินเมื่อทำการเทรด CFDs กับทางแพลตฟอร์มนี้
Capital.com แพลตฟอร์มที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน เป็นแพลตฟอร์มเทรดที่ได้รับการควบคุมโดย FCA และเป็นโบรกเกอร์ที่เชี่ยวชาญการเทรดตราสาร CFD ครอบคลุมสกุลเงินดิจิทัลจำนวนมาก เช่น คุณสามารถเทรดคู่คริปโตกับสกุลเงินทั่วไป (Crypto to Fiat) เช่น BTC / USD และ ETH / USD รวมถึงการซื้อคู่สคริปโตครอส เช่น BTS/BTC และ TRX/BTC
ไม่ว่าจะเทรดตราสารใดก็ตาม Capital.com จะไม่คิดค่าคอมมิชชั่น สเปรดของโบรกเกอร์นี้ก็ดีกว่าเจ้าอื่นด้วย เช่น คุณสามารถเทรด XRP/USD ด้วยสเปรดเพียง 0.004 หรือเทรด CFD ของสกุลเงินดิจิทัลทั้งหมดด้วยเลเวอเรจ 1:2 เพื่อเพิ่มยอดเงินตั้งต้นเป็นสองเท่า
Capital.com ยังเป็นตัวเลือกที่เหมาะกับนักเทรดมือใหม่ เช่นเดียวกับ eToro แพลตฟอร์มการเทรดใช้งานง่ายมาก และไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ด้านการเทรดมาก่อน คุณสามารถเริ่มต้นด้วยเงินฝากขั้นต่ำเพียง 20 ปอนด์ด้วยบัตรเดบิต/บัตรเครดิต หรืออี-วอลเล็ท ซึ่งถือข้อดีหากคุณต้องการเริ่มต้นด้วยเงินจำนวนไม่มาก
ค่าธรรมเนียม Capital.com
83.45% ของบัญชีนักเทรดรายย่อยสูญเสียเงินเมื่อทำการเทรด CFDs กับทางแพลตฟอร์มนี้
ด้วยลูกค้าหลายล้านราย ทำให้ Crypto.com เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ทาง Crypto.com รองรับหลากหลายคริปโตเคอเรนซี่ สามารถเข้าถึง NFT ทำเงินได้มากถึง 14.5% ต่อปี ผลตอบแทนจากการถือคริปโตของคุณมีบริการซื้อขายที่เรียบง่าย ไม่ยุ่งยากและต้นทุนต่ำสำหรับโทเค็นมากกว่า 250 รายการและยังเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอเรนซี่เป็นหลัก
Crypto.com ให้บริการสินเชื่อสินทรัพย์ดิจิทัล บัตรเครดิต crypto บัตรเดบิต และตลาด NFT ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรม Crypto Earn หลังจากที่คุณฝากโทเค็นดิจิทัลที่คุณเลือกแล้ว Crypto.com จะจัดสรรเงินเพื่อกู้ยืมเงินทุนไปยังบัญชีของคุณ นอกจากนี้ คุณจะได้รับดอกเบี้ยรายวันจากผู้กู้ปลายทางเมื่อผู้กู้ปลายทางชำระเงินคืน
มีสามปัจจัยกำหนดอัตราผลตอบแทน อย่างแรกเลยก็คือ อัตรา APY จะแตกต่างกันไปตามโทเค็น ตัวอย่างเช่น Stablecoin หรือ คริปโตเคอเรนซี่ที่มีมูลค่าคงที่ อย่างเช่น USDC หรือ TrueGBP ให้ผลตอบแทน 12% ต่อปี ในขณะที่ Bitcoin และ Ethereum ให้ผลตอบแทน 6.5% ปัจจัยที่สองที่ส่งผลต่ออัตราผลตอบแทนที่คุณจะได้รับคือการที่คุณล็อคโทเค็นของคุณไว้เป็นเวลาหนึ่งเดือนหรือสามเดือน หรือการ staking
สุดท้ายนี้ สินทรัพย์ดิจิทัลหลักของทาง Crypto.com - คือโทเค็น CRO - จะทำให้คุณได้รับ APY หรืออัตราผลตอบแทนแบบทบต้นทบดอกที่สูงขึ้น คุณต้องจำไว้ว่า Crypto.com ทำการปล่อยเงินกู้ ดังนั้นโทเค็นนี้สามารถสร้างผลตอบแทนได้ ไม่ว่าคุณจะเลือกโทเค็นใดก็ตามในการ staking บัตรเครดิตสามารถซื้อโทเค็นดิจิทัลต่างๆ ผ่าน Crypto.com ได้ในราคาที่ชาร์จเพียง 2.99% ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักเทรดที่มีความแอคทีฟ
มากถึง 14.5% สำหรับเหรียญที่ไม่ใช่ stablecoins (BTC, CRO, ETH, LTC เป็นต้น)
สูงสุด - $500,000 (เทียบเท่า USD)
ทดสอบความปลอดภัยโดย Kudelski Security
ไปที่ Crypto.com
สินทรัพย์ดิจิตอลมีความผันผวนสูง และยังไม่ได้รับการกำกับดูแล
Libertex คือโบรกเกอร์ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของหน่วยงาน CySEC ที่นักเทรดสามารถซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลมากมายได้โดยไม่มีสเปรด! สเปรดคือความแตกต่างระหว่างราคาซื้อและราคาขาย ซึ่งเป็นสิ่งที่โบรกเกอร์ใช้เป็นส่วนหนึ่งของค่าธรรมเนียม
Libertex ช่วยให้คุณเทรดคริปโตได้มากมาย เช่น Bitcoin, Ethereum, Bitcoin Gold, Bitcoin Cash, Monero/Bitcoin, Zcash/Bitcoin และอื่นๆ เทรดได้ทุกอย่างโดยไม่มีสเปรด!
การซื้อขายมีค่าคอมมิชชั่นเพียงเล็กน้อย พร้อมข้อเสนอส่วนลด 50% สำหรับนักเทรด
การเปิดบัญชีกับ Libertex ทำได้ง่ายมาก และใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น การเปิดบัญชีกำหนดเงินฝากขั้นต่ำแค่ 100 ยูโร
เนื่องจากโบรกเกอร์ให้บริการเทรดสกุลเงินดิจิทัลผ่าน CFD คุณจึงสามารถเปิดสถานะ Long และ Short เพื่อกำไรจากตลาดที่เพิ่มขึ้นและลดลง รวมถึงการใช้เลเวอเรจ
70.8% ของบัญชีนักเทรดรายย่อยสูญเสียเงินเมื่อทำการเทรด CFDs กับทางแพลตฟอร์มนี้
ปัจจุบัน Binance คือแพลตฟอร์มเทรดสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีคุณสมบัติมากมาย ค่าธรรมเนียมการซื้อขายเพียง 0.10% แต่เฉพาะกรณีที่คุณฝากเงินผ่านสกุลเงินดิจิทัลอื่นเท่านั้น
แพลตฟอร์มนี้นำเสนอการซื้อขายคู่สกุลเงินดิจิทัลนับร้อย มีเหรียญต่างๆให้เลือกมากมาย ค่าธรรมเนียมโปร่งใส นอกจากนี้นักเทรดเงินคริปโตยังสามารถซื้อขายใน Spot Market (ตลาดสปอต) และ Futures Market (ตลาดฟิวเจอร์ส)
การฝากเงินทำได้หลายช่องทาง เช่น สกุลเงินทั่วไป (Fiat Currency) การฝากเงินผ่านธนาคาร บัตรเครดิต/บัตรเดบิต การเทรดแบบ P2P หรือระบบการชำระเงินของบุคคลที่สาม
Binance Exchange ยังมีส่วนการรวบรวมข้อมูลและการเรียนรู้ รวมถึงคุณสมบัติอื่นๆ สำหรับการสร้างเทคโนโลยีบล็อกเชน เช่น Binance Labs ซึ่งเป็นศูนย์โครงการบล็อกเชนชั้นนำ
เงินของคุณกำลังมีความเสี่ยง
Quantum AI เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์ม Cryptocurrency ที่ดีที่สุด คุณสามารถซื้อขายได้จากหลายร้อยคู่ให้เลือก สิ่งที่ทำให้ Quantum AI มีความพิเศษเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์อื่นๆ คือมันใช้ปัญญาประดิษฐ์ ซอฟต์แวร์จัดการวิเคราะห์ราคาหลายพันราคาต่อวินาที และให้คำแนะนำเกี่ยวกับโอกาสการลงทุนที่ดีแก่คุณ
เหนือสิ่งอื่นใด การเทรดทั้งหมดของคุณ ไม่ว่าจะเป็นคริปโตหรือสินทรัพย์ทางการเงินอื่นๆ เช่น หุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ ฟอเร็กซ์ ฯลฯ จะทำได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่นใดๆ แพลตฟอร์มนี้ไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมใดๆ สำหรับการทำธุรกรรม ซึ่งทำให้ใช้งานได้ฟรี 100%
เครื่องมือทางการเงินทั้งหมด รวมถึงสกุลเงินดิจิตอลเข้ารหัส มีการซื้อขายเป็น CFD ดังนั้น แพลตฟอร์มนี้จึงเหมาะกับเทรดเดอร์ที่กระตือรือร้น และโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ไม่มีเวลามากเกินไปในการรวบรวมข้อมูลทั้งหมด เนื่องจากคุณได้รับคำแนะนำและสัญญาณ แพลตฟอร์มนี้จึงเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น
หากคุณต้องการเปิดบัญชีซื้อขาย Quantum AI คุณต้องทำการฝากเงินครั้งแรกเมื่อคุณลงทะเบียน คุณสามารถเลือกระหว่างการโอนเงินผ่านธนาคารและบัตรเครดิต/เดบิตเป็นวิธีการชำระเงิน และจำนวนเงินขั้นต่ำคือ 220 ยูโร
แพลตฟอร์ม Quantum AI นั้นไม่ใช่นายหน้า แต่ทำงานเป็นซอฟต์แวร์ที่มีโบรกเกอร์คริปโตที่เป็นพันธมิตรกว่า 15 แห่งที่ได้รับการควบคุม ซึ่งหมายความว่าข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดของคุณ รวมทั้งเงินทุน จะปลอดภัยและได้รับการคุ้มครองโดยการเข้ารหัส
ค่าธรรมเนียม Quantum AI:
71% ของนักลงทุนรายย่อยสูญเสียเงินจากการซื้อขาย CFD ที่ไซต์นี้
เนื้อหาในส่วนนี้ของคู่มือการเทรดคริปโต จะแนะนำเกี่ยวกับขั้นตอนการเปิดบัญชี การเทรดคริปโตในไทย การฝากเงิน และการเทรด
คำอธิบายจะอ้างอิงจากแพลตฟอร์มของ eToro เนื่องจากเป็นแพลตฟอร์มที่คุณสามารถลงทุนและเทรดสกุลเงินดิจิทัลได้โดยไม่มีค่าคอมมิชชั่น นอกจากนี้ยังใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีในการตั้งค่าเป็นบัตรเดบิต/บัตรเครดิต และฝากผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ได้ทันที
ไปที่เว็บไซต์ ไม่ว่าจะทางออนไลน์หรือทางมือถือ แล้วคลิกที่ปุ่ม ‘สร้างบัญชี’
คุณจะถูกขอให้ป้อนข้อมูลส่วนบุคคล รายละเอียดการติดต่อ และหมายเลขประกันของประเทศ คุณต้องสร้างชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านด้วย สุดท้าย ให้ยืนยันหมายเลขโทรศัพท์มือถือของคุณโดยป้อนรหัสเฉพาะที่ eToro ส่งไปยังโทรศัพท์ของคุณ
หมายเหตุ: ผู้ถือบัญชี eToro ทุกคนต้องอัปโหลดสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทางหรือใบขับขี่พร้อมกับหลักฐานที่อยู่ คุณจะต้องทำสิ่งนี้ก่อนทำการถอนหรือฝากเงินมากกว่า $2,250
จะต้องใช้สำเนาเอกสารประจำตัวที่ออกโดยหน่วยงานราชการที่ถูกต้องในระหว่างขั้นตอนการลงทะเบียนเพื่อยืนยันตัวตนของคุณและอำนวยความสะดวกในการลงทะเบียนในเวลาที่เหมาะสม eToro ยอมรับเอกสารแสดงตนที่หลากหลาย รวมถึงบัตรประจำตัวประชาชน หรือหนังสือเดินทาง หรือใบขับขี่ หรือหลักฐานแสดงถิ่นที่อยู่
แม้ว่า eToro จะอนุญาตให้คุณซื้อสินทรัพย์ในประเทศไทย ได้อย่างน้อย 25 ดอลลาร์ แต่คุณจะต้องฝากเงินอย่างน้อย 50 ดอลลาร์ คุณสามารถทำได้ทันทีด้วยบัตรเดบิต/เครดิตประจำวันของคุณ
นอกจากนี้ยังรองรับ E-wallets ซึ่งรวมถึง Paypal, Skrill และ Neteller คุณสามารถโอนเงินจากบัญชีธนาคารในประเทศไทย ได้หากต้องการ แต่เตรียมใจไว้เลยว่าจะต้องรอเป็นเวลาหลายวันกว่าเงินจะมาถึง
สำหรับการซื้อขาย บัญชีของคุณพร้อมแล้ว และคุณสามารถเริ่มการซื้อขาย eToro ของคุณได้ การซื้อขายทั้งหมด eToro รองรับคริปโตเคอเรนซี่ ที่หลากหลายรวมถึง คริปโตเคอเรนซี่ เหรียญใหญ่ๆ อย่างเช่น Bitcoin, Ethereum และ Litecoin และเหรียญอื่นๆอีกมากมายสามารถทำได้โดยตรงบนแอพมือถือ eToro หรือแพลตฟอร์มออนไลน์บนเดสก์ท็อป
ตลาดการเทรดคริปโต ในไทยกลายเป็นแหล่งลงทุนที่มีมูลค่าหลายพันล้านบาท คุณสามารถเทรดคู่สกุลเงินดิจิทัลจำนวนมากอย่างสะดวกสบายได้จากที่บ้าน และมีเลเวอเรจสูงสุด 1:2 ให้ใช้สำหรับนักเทรด รายชื่อโบรกเกอร์ในไทยทั้งหมดที่แสดงไว้ในหน้านี้อนุญาตให้คุณเทรดสกุลเงินดิจิทัลได้โดยไม่มีค่าคอมมิชชั่น และมีสเปรดที่ดีกว่าโบรกเกอร์เจ้าอื่น ก่อนที่จะเริ่มต้นเทรดสกุลเงินดิจิทัล คุณต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเทรดคริปโต
หากคุณพร้อมเริ่มต้นเทรดด้วยบัญชีการเทรดคริปโต แนะนำให้ใช้ eToro ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับการควบคุมโดย FCA ช่วยให้คุณเทรดสกุลเงินดิจิทัลต่างๆ รวมถึงคู่คริปโตกับสกุลเงินทั่วไปและคริปโตครอส ไม่มีการเรียกเก็บค่าคอมมิชชั่น นักเทรดจะได้รับการป้องกันตามกฎข้อบังคับของหน่วยงาน FCA
คุณต้องเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ออนไลน์ที่อนุญาตให้คุณเทรดคู่สกุลเงินดิจิทัล จากนั้นให้พิจารณาว่าราคาของคู่สกุลเงินดิจิทัลจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงในระยะสั้นเวลาสั้นๆ
ในโลกออนไลน์มีแพลตฟอร์มการเทรดคริปโต สำหรับเทรดคริปโตนับร้อย แต่คุณควรเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้ ซึ่งแพลตฟอร์มทั้งห้าแห่งที่แนะนำในหน้านี้เป็นโบรกเกอร์ได้รับการควบคุม
ได้ โบรกเกอร์บางรายอนุญาตให้คุณเทรดสกุลเงินดิจิทัลด้วยเลเวอเรจสูงสุด 1:2
หากคุณคิดว่าสกุลเงินดิจิทัลมีมูลค่าสูงเกินไป คุณสามารถวางคำสั่งขายกับโบรกเกอร์ CFD ได้
BTC/USD คือคู่ที่ประกอบด้วย Bitcoin และดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นคู่เงินที่มีปริมาณการเทรดมากที่สุดในตลาดสกุลเงินดิจิตอล การเทรดคู่นี้จะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์จากสเปรดที่แคบที่สุดและระดับสภาพคล่องที่ใหญ่ที่สุด
คุณประกิต ไชยสาร เป็นนักเขียน, นักวิเคราะห์ และนักลงทุนที่อยู่ในกรุงเทพฯ ประเทศไทย เขาเป็นนักวิเคราะห์ที่มีประสบการณ์ และเป็นเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปีในตลาดการเงิน เขามีความเชี่ยวชาญด้านการเดย์เทรดและการลงทุนระยะยาว